ตัวอ่อนจากพืช VP; "การปฏิวัติใหม่เพื่อการฟื้นฟูเซลภายในร่างกาย"
นับ เป็นเวลานานกว่า 15 ปี มาแล้ว ที่บรรดานักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และชีวะเทคโนโลยีจากสวิตเซอร์แลนด์ และชาวยุโรป ได้ค้นคว้าวิจัย การพัฒนาสารตัวใหม่ที่จะ นำมาใช้ทดแทนในรูปแบบของอาหารเสริมที่มีประสิทธิภาพในการทำงานมาก และให้ผลที่เท่าเทียมกันกับ "รกแกะ"
เมื่อถึงปี 2001 การสร้างสรรค์ที่โดดเด่นนี้ได้ผ่านการทดสอบ และพัฒนาเป็นผลสำเร็จ ซึ่งทำให้เราทราบว่าพืชก็มีตัวอ่อน (Embryo) เช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสารที่ออกฤทธิ์ "Vegetal Placenta" (ตัวอ่อนจากพืช) พบได้ใน MF III แห่งสวิตเซอร์แลนด์ ในรูป VP Gel cap "รก" ของต้นกำเนิดพืชนั้นถูกผลิตที่ใจกลางของตาอ่อนพฤกษา "รก" จะทำหน้าที่เลี้ยงผลของต้นไม้ในระหว่างที่ผลนี้อยู่ในช่วงเจริญเติบโต สารที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์นี้เรียกว่า Dermacenta หรือเรียกง่าย ๆ ว่า "Vegetal Placenta" VP จะถูกสกัดในระหว่างที่ยังอยู่ในระยะตัวอ่อนขณะที่เซลกำลังแบ่งตัวในตาของพืชพันธุ์พิเศษ Dermacenta ในรูป VP Gel cap ของ MF III จะฟื้นฟูเซลได้ดีกว่าอาหารเสริมชนิดอื่น ๆ เพราะมาจากตัวอ่อนของพืชตามธรรมชาติ Dermacenta เพิ่มการทำงานของเอ็นไซม์ของเซลโดยการให้ฮอร์โมนของตัวอ่อนพืชจากธรรมชาติ ฮอร์โมนดังกล่าวจะค่อยๆ กระตุ้นกระบวนการทำงานของเอ็นไซน์ ส่งผลทำให้เซลทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และมี
ประสิทธิภาพสูงสุด
ชั้นภายนอกของใบไม้ประกอบด้วย Epidermis, ชั้นบน Mesopyll และ Epidermis ชั้นล่าง "รก" ของพืชก็เช่นเดียวกันกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม คือทำหน้าที่เป็นโรงงานผลิตอาหารให้กับตัวอ่อน ใบก็เปรียบเสมือนโรงงานขนาดเล็กที่ผลิตอาหารให้กับต้นไม้ ส่วนต่างๆ ของต้นไม้มีหน้าที่แตกต่างกันไป เส้นใยเป็นที่รวมของท่อเล็ก ๆ ที่ส่งน้ำและแร่ธาตุต่างๆ ไปยังใบ แล้วจึงนำอาหารที่ได้ที่ใบไปเลี้ยงส่วนอื่น ๆ ของต้นไม้ เส้นใยยังช่วยค้ำจุนใบไม้ ถ้าเราสังเกตบริเวณใต้ใบจะเห็นช่องเปิดเล็ก ๆ หรือรูเล็ก ๆ ที่เรียกว่า "ปากใบ" STOMATA "ปากใบ" ทำหน้าที่เป็นปอดของใบไม้ที่เปิดให้อากาศผ่านเข้าออก และให้มีการระเหยของน้ำ และปล่อยออกซิเจนในเวลากลางคืน พลังของแสงอาทิตย์ทำให้ใบสามารถรับสารที่ไม่มีชีวิตให้เป็นอาหารในทำนองเดียวกัน "รก" ก็เป็นทางลำเลียงอาหารให้แก่ตัวอ่อนของพืช

ตัวอย่างเซลจากพืช การวิจัย และกรรมวิธีในการผลิต แคปซูล VP

MF III VP Gel cap ที่มี Dermacenta บรรจุอยู่นี้อุดมด้วยกรดอมิโนโดยเฉพาะกรดอลานิน และโพรลีน กรดอมิโนเป็นชีวะโมเลกุลที่มีขนาดเล็กมาก โดยเป็นโครงสร้างหลักของโปรตีน และเอ็นไซน์ กรดอมิโนจะรวมเข้ากับโปรตีนโดยการถ่ายโอน RNA ตามรหัสพันธุกรรม ขณะที่ Messenger RNA จะถูกถอดรหัสโดย ไรโบโซม อลานินเป็นกรดอมิโน ที่มีโครงสร้างทางเคมีอย่างง่ายเป็นอันดับสอง แต่ถูกใช้มากที่สุดในการก่อรูปเป็นโปรตีนชนิดต่างๆ
โพรลีน เป็นกรดอมิโนถูกนำไปใช้ในการสังเคราะห์คลอลาเจน ส่วนคลอลาเจนเป็นสารประกอบของโปรตีนชนิดเส้นใยของ
ผิวหนังกระดูกอ่อน และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันอื่น ๆ คลอราเจนยังเป็นส่วนประกอบหลักของชั้นร่างแห เส้นใยของผิวหนังคนเรา และโปรตีนโครงสร้างที่สำคัญถูกนำมารวมเข้าเป็นคลื่นยาว ซึ่งคลอราเจน จะแผ่กิ่งก้านสาขาออกในลักษณะไร้ทิศทาง และก่อให้เกิดร่างแหไขว้ทับกันไปมา สิ่งนี้เองที่กำหนดคุณภาพของผิวหนัง คลอราเจนมีอยู่ในเนื้อเยื่อผิวหนังของคนเราถึง 75% นี้เป็นโครงสร้างค้ำจุนปฐมภูมิของผิวหนังทำให้ผิวหนังของเราแข็งแรง และนุ่มนวล ขณะเดียวกันก็สามารถสงวนรักษาความชุ่มชื่นตามธรรมชาติจึงทำให้คลอราเจนมีปริมาณ 90 % ของปริมาณผิวหนัง แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น ประกอบกับผลจากการถูกแสงแดดบ่อยครั้ง และต้องเผชิญกับความเครียด หรือมลภาวะของการเจ็บไข้ได้ป่วย ทำให้ส่วนประกอบเส้นใยคลอราเจนของเราจะเริ่มอ่อนแอลง และเริ่มแข็งตัวขึ้น เป็นสาเหตุริ้วรอยเหี่ยวย่น หรือเรียกง่าย ๆ ว่ารอยตีนกา ผิวหย่อนยาน เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ผิวหนังของมนุษย์เราสร้างคลอราเจนอยู่เรื่อย ๆ แต่พออายุมากขึ้นคลอราเจนของเราจะสลายตัวเร็วกว่าอัตราการสร้างใหม่ขึ้นมา สายของกรดอมิโนส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยโพรลีน และโพรลีนดัดแปลงคือ Hydroxyproline ที่ถูกสร้างโดยการดัดแปลงโพรลีนปกติหลังจากที่สายคลอราเจนถูกสร้างขึ้น สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งขึ้นต่อความคงทนของคลอราเจน

สรุปจากผลการวิจัย
1 .การบริโภค Dermacenta สามารถลดความเข้มข้นของเซรุ่มที่คลอเลสเตอรอล และไตรกรีเซอไรย์ได้อย่างมีนัยสำคัญ
2. เนื่องจาก Dermacenta มี Phytoestrogens จากพืชจึงเป็นปัจจัยทางโภชนาการ ที่ช่วยป้องกันมะเร็ง และโรคหัวใจ
3. ในบรรดาสตรีที่บริโภค Phytoestrogens ในปริมาณมากพบว่าระดับความ เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งในเต้านมลดลงเห็นได้ชัดเจน
4. Phytoestrogens จากพืชธรรมชาติอาจจะสามารถใช้แทนการรักษาด้วยการให้ฮอร์โมนที่ใช้กันโดยทั่วไป
5. การบริโภค Dermacenta ในประมาณสูงจะสัมพันธ์กับระพันความเสี่ยงที่ลดลงของการเป็นมะเร็งที่เยื่อบุมดลูก
6. Dermacenta ช่วยผ่อนคลายระบบประสาทเพราะการทำงานของอลานิน อีกทั้งยังจัดระบบซ่อมแซม และฟื้นฟูเนื้อเยื่อของอวัยวะ และ
การทำงานช่วยให้คลายจากอาการอ่อนล้า หรือตึงเครียดได้

Dermacenta เพิ่มการหมุนเวียนของเซลด้วยสารสกัดจาก "รก" ของพืช ในรูป VP Gel cap ของ MF III นอกจากนี้ยังให้สาร
ทดแทนสารสกัดจากรกที่ถูกไฮโดไรย์ โดยอาศัยส่วนประกอบทางเคมี และชีววิทยาของรกจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
Dermacenta ไม่มีส่วนประกอบที่มาจากสัตว์ โปรตีนพื้นฐานที่ใช้ในการผลิตได้รับการเลือกสรรจากโปรตีนที่สกัดมาจากพืชพันธุ์พิเศษ (รับรองว่าไม่มีการดัดแปลงพันธุ์กรรม) แม้แต่เอ็นไซน์ที่ใช้ก็มาจากผัก ตัวกระตุ้นทางชีวะ (ปัจจัยการเจริญเติบโตของเซล) จะอยู่ใน
รูปแบบของสารสกัดบริสุทธิ์จากว่านหางจระเข้
Dermacenta ได้รับการเสนอให้เป็นสารทดแทนสารสกัดจากรกของมนุษย์ หรือสัตว์เนื่องจากให้ผลเหมือนกัน นั่นคือการกระตุ้นการสร้างเซลใหม่หน้าที่การทำงานของกรดอมิโนที่พบใน (Dermacenta)

จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับสรีระศาสตร์ ในกลุ่มอาสาสมัคร โดยจัดการเปลี่ยนแปลงของเซลด้วยวิธีการ DHA
พบว่า สีเทียมของผิวหนังที่หายไปทำให้เราได้มีโอกาสวัดการหลุดลอก และการผลัดเซลคอร์เนโอไซย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นน้อยครั้ง หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์นี้ติดต่อกันเป็นเวลา 11วัน(โดยทำให้เจือจาง 50 %) การผลัดเซลจะเพิ่มขึ้นอย่างต่ำ 26 % จากการทดสอบภายในกลุ่มอาสาสมัครเพศหญิงอายุระหว่าง 40-65 ปี MF III แคปซูล สามารถทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง แสดงให้เห็นถึงสัญญาณที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาจะจางหายลง ผิวหนังอ่อนนุ่ม และชุ่มชื่น เรียบเนียนกระชับขึ้น เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น ๆ MF III แคปซูล สามารถละลายในน้ำได้ถึง 99 %
ในฐานะสารอาหาร กรดอมิโนสามารถส่งเสริมการทำงานทางชีวะวิทยาของโปรตีนในมนุษย์ในฐานะสารปรับสภาพทางร่างกาย กรดอมิโนสามารถปรับเมตาโบลิสซึ่มของอวัยวะมนุษย์ และทำให้อวัยวะต่างๆ ทำงานเป็นปกติ และในฐานะแอนติบอดี้ กรดอมิโนมีฤทธิ์ต่อต้านการติดเชื้อ และการเกิดโรค

ขนาดบรรจุ 1 กล่อง 30 แคปซูล รับประทานวันละ 1 แคปซูล ก่อนรับประทานอาหาร 30 นาที