ร้านแฟ้มเอกสาร ก่อตั้งเมื่อ ปี 2540 เกิดจากภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ ทำให้การสั่งทำสินค้าในตอนนั้น เกิดปัญหาเช่นผู้ว่าจ้างไม่จ่ายค่าสินค้าหรือยกเลิกการสั่งทำสินค้าอย่างกระทันหันและการตีคืนสินค้าจากทางห้าง ร้าน ต่าง ๆ เพื่อล้างสต๊อกสินค้าและเพื่อเป็นการลดปริมาณสินค้าที่ไม่จำเป็น(สินค้าที่ฝากทางห้างวางขายก่อนแล้วเก็บบัญชีทีหลัง)
จากการที่เกิดภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ ทำให้ทางร้านแฟ้มเอกสารต้องปรับตัวอย่างมากเนื่องจากการทำงานของทางร้านเมื่อก่อนจะรับมัดจำค่าสินค้าจากลูกค้าเป็นเช็คแทนเงินสด ซึ่งทางร้านต้องออกค่าใช้จ่ายในการทำงานไปก่อนแล้วเมื่อนำเช็คไปขึ้นเงินได้จึงจะนำมาใช้จ่ายส่วนที่ขาดเหลือ ทำให้เมื่อเกิดภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ ห้าง/ร้านต่าง ๆ ที่สั่งทำสินค้าไว้ก็เริ่มตีคืนสินค้าที่ทางร้านทำส่งขาย อีกทั้งการทำของขวัญของแจกก็ประสบปัญหาลูกค้าที่สั่งทำไม่จ่ายเงินส่วนที่เหลือบางรายเป็นคดีต้องขึ้นศาลและได้คืนมาเพียงสินค้าที่ยังไม่แจกเท่านั้น ก่อให้เกิดสินค้าเป็นจำนวนมากถูกตีคืนมาอยู่ในสต๊อก เมื่อลูกค้าที่สั่งสินค้าไม่มารับสินค้าไม่จ่ายเงินทำให้ทางร้านต้องลดพนักงานส่วนพนักงานบางคนที่ไม่มีที่ไปทางร้านก็ให้อยู่ช่วยงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ เมื่อไม่มีการสั่งงานเข้ามานาน ๆ รายรับเริ่มติดลบ ในขณะที่รายจ่ายยังเท่าเดิมทำให้ร้านต้องตัดสินใจเลิกจ้าง พนักงานทั้งหมด !
แต่ในขณะที่ทางร้านประสบปัญหาสินค้าค้างสต๊อกและสินค้าตีคืนเป็นจำนวนมาก อีกทั้งไม่มียอดการสั่งซื้อสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาคนในครอบครัวก็เริ่มท้อแท้หมดหวัง เรากับพบว่ามีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งรวมตัวกันเปิดท้ายขายสินค้าที่ ซอยทองหล่อ เมื่อเดินทางไปดูก็พบว่าส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกันแต่ของคนอื่นจะหนักกว่าเพราะว่าบางคนถึงขนาดประกาศขายเครื่องบินส่วนตัวก็มี ทำให้เราเริ่มคิดว่าปัญหาของเรานั้นถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยนักถ้าเทียบกับคนอื่น เราจึงเริ่มที่จะเอาสินค้าที่ถูกตีคืนทั้งหมดมาขายในราคาถูก โดยเริ่มขายครั้งแรกที่ห้างตะวันนา (ข้างเดอะมอลล์บางกะปิ) เมื่อปี 2540 ผลปรากฎว่าลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดีเนื่องจากสินค้าของเราถ้าเทียบกับของบนห้างแล้วถือว่าถูกมาก อย่างแฟ้มเอกสาร เมื่อก่อนห้างจะขายอยู่ ที่ 350-750 แต่เราขายอยู่ที่ 100-200 บาทเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าลูกค้าให้การตอบรับเราดีเราก็มาคิดกันว่าต่อไปนี้เราจะไม่ทำสินค้าส่งขายแล้วแต่จะหันมาผลิตสินค้าเพื่อขายปลีกแทนเนื่องจากว่าได้พบกับลูกค้าตัวจริง ๆ ได้มีโอกาศพูดคุยกับลูกค้าถึงคุณภาพของสินค้า และลักษณะการใช้ง่านของลูกค้าทำให้ร้านผลิตสินค้าได้ตรงจุดมากขึ้น และขายดีขึ้นด้วย
ปัจจุบันทางร้านมีลูกค้าประจำเพิ่มมากขึ้นจากการเปิดท้ายขายของและยังได้เพื่อนใหม่ ๆ ด้วยเนื่องจากลูกค้าบางคนติดใจสินค้าก็มาพูดคุยบอกต่อเพื่อนให้เพื่อนมาซื้อก็มี แต่ส่วนใหญ่พอพาเพื่อนมาซื้อแล้วก็มักจะบอกว่า "ไม่ได้อะไรเลยนะเนี่ย" แต่คำพูดคำนี้แหละที่ทางร้านภูมิใจเพราะมันแสดงถึงความพอใจและความไว้ใจในสินค้าของทางร้าน จนทำให้ลูกค้าต้องชวนเพื่อนมาซื้อสินค้าของร้าน
อันนี้สำคัญค่ะที่ร้านมีชื่อว่า "ร้านแฟ้มเอกสาร" เพราะร้านเราไม่มีชื่อร้านลูกค้าบางคนพอมาซื้อแล้วจำชื่อเจ้าของร้านไม่ได้ก็เรียกว่า "เฮียแฟ้มหรือเปล่าครับ/ค่ะ" "เจ้แฟ้มหรือเปล่าครับ/ค่ะ" "ร้านแฟ้มใช่ไหมครับ/ค่ะ" ก็เลยกลายเป็นชื่อร้านแฟ้มโดยอัตโนมัติ
และเหตุผลที่เราไม่ตั้งชื่อร้านเพราะว่าเราถือคติว่าเราจะไม่ทำยี่ห้อมาขายแต่เราจะขายงานฝีมือที่เราทำถ้างานของเราดีจริง ไม่ว่าจะมีหรือไม่มียี่ห้อก็ตามลูกค้าก็จะจดจำเราได้เสมอ
ขอขอบพระคุณลูกค้าทุกท่านเป็นอย่างสูง
น้องกิ๊ก (อุทัยรัตน์ ตรีสง่า)
ลูกสาวเฮียร้านแฟ้มเอกสาร