ถังพ่นยา มอเตอร์ไฟฟ้า ตรานกเงือกไทย
HORNBILL AUTO ELECTRIC SPRAYER
ไม่ลองไม่รู้
ใช้กันมากในหมู่เกษตรกรมหาชน-และผู้สนใจ
หนึ่งในสินค้าคุณภาพมาตรฐาน MCT
จำหน่ายพร้อมอะไหล่ทุกรุ่น
เครื่องฉีดพ่นยาเป็นเครื่องมือทางการเกษตรที่จำเป็นเกษตรกรต้องมี ไว้ใช้เกือบทุกครัวเรือน ถ้าเกษตรกรมีเครื่องฉีดยาชนิดไฟฟ้าจะทำให้เกษตรกรทุ่นแรงประหยัดเวลาได้ อย่างมาก
เครื่องพ่นยาไฟฟ้าแบบพกพา เหมาะสำหรับใช้พ่นยาฆ่าหญ้า พ่นปุ๋ยทางใบ สารป้องกันกำจัดแมลง สารป้องกันกำจัดวัชพืช ยาคุมหญ้าให้ฮอร์โมน พ่นปุ๋ย พ่นละอองน้ำ ในงานด้านการเกษตร ไร่สวน แปลงเพาะปลูก โรงเรือนเพาะชำ ฯลฯ
ตัวเครื่องประกอบด้วยปั๊มแรงดันสูง คุณภาพเยี่ยม สามารถชาร์ตด้วยไฟบ้าน ช่วยประหยัดไม่เปลืองแรง ละอองน้ำกระจายทั่วถึงสม่ำเสมอ สบายใช้งานสะดวก ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 6 กิโลกรัม
- คุณสมบัติและลักษณะเด่น
คุณสมบัติ ใช้ฉีด พ่นยาฆ่าหญ้า ยาคุมหญ้า ให้ฮอร์โมน พ่นปุ๋ย จุลินทรีย์ ในแปลงพืชผัก ไร่สวน เรือนเพาะชำ บ่อบำบัดฯลฯ
ลักษณะเด่น
- เครื่องฉีดพ่นยาชนิดไฟฟ้าใช้งานได้ง่าย แค่กดสวิตช์ เปิด-ปิด เครื่องก็จะทำงานฉีดพ่นยาได้
- รุ่นพิเศษ มีสวิตส์ หมุนเพื่อเร่งหรือหรี่
- มีสวิสต์ปิดเปิดแรงดัน อัตโนมัติ ตัดการทำงานของมอเตอร์โดยอัตโนมัติ เมื่อหยุดปล่อยน้ำ
- มีมิเตอร์แสดงการใช้ไฟของมอเตอร์
- ใช้กำลังไฟจากแบตเตอรี่ โดยไม่ต้องโยก ประหยัดแรงงาน
- ขนาดบรรจุน้ำยา 16-18 ลิตร
- ใช้แบตเตอรี่แห้งขนาด 12V 8AH ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น
- ฉีดพ่นยาได้อย่างสม่ำเสมอ
- ประหยัดเวลาใน การทำงาน
- จากการทดสอบจริง ในแปลงของเกษตรกร สามารถใช้งานได้ 4-8 ชั่วโมง ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง
เมื่อนำน้ำยาใส่ลงไปในถัง เปิดสวิตช์ ปั้มก็จะทำงานฉีดพ่นน้ำยาออกมาและเมื่อเสร็จการใช้งานก็กดสวิตท์ปิดปั้มก็จะ หยุดเมื่อแบตเตอรี่หมดก็จะนำมาชาร์ตใหม่ได้อีกใช้งานได้ยาวนานหลายปี
มีมิเตอร์ไฟฟ้าสำหรับแสดงผลสภาวะกำลังไฟของแบตเตอรี่ ใช้งานต่อเนื่อง 4-8 ชม.
สินค้าเด่น-ดี สำหรับเกษตรกรไทย ไม่ลองไม่รู้
|
|
ตังถังน้ำหนักเบา |
ลักษณะการชาร์ดไฟฟ้า |
|
|
สายสะพาย |
ฝากรองน้ำถัง |
อุปกรณ์ภายในกล่อง
|
|
หัวพ่นยา 4 รูปแบบ |
เครื่องชาร์จแบตเตอร์รี่
|
แสดงรูปภาพหัวพ่นแบบต่างๆ ทุกแบบสามารถปรับแรงดันน้ำ เบา-แรง ได้ที่ตังถัง
|
|
หัวพ่นยาทองเหลืองสามารถปรับรูปแบบการฉีดน้ำได้
แบบที่ 1 น้ำออกเป็นฝอย เหมาะสำหรับการฉีดฮอร์โมนพืช
|
หัวพ่นยาทองเหลืองสามารถปรับรูปแบบการฉีดน้ำได้
แบบที่ 2 น้ำออกเป็นฝอยไปได้ไกลเหมาะฉีดฮอร์โมนพืช
|
|
|
หัวพ่นยาทองเหลืองสามารถปรับรูปแบบการฉีดน้ำได้
แบบที่ 3 น้ำฝอยการะจ่าย
|
หัวพ่นยา 4 รูจะให้ลักษณะน้ำเป็นฝอยไปได้ไกล |
|
|
หัวพ่นยา 1 รู ให้ลักษณะน้ำเป็นฝอยกระจ่าย |
หัวพ่นยา รูคู่ ให้ลักษณะน้ำเป็นฝอยกระจ่ายสูง |
รูปพื้นที่่ก่อนการใช้เครื่องพ่นยา นกเงือก ด้วยยาฆ่าหญ้า
รูปพื้นที่หลังจากพ่นด้วยยาฆ่าหญ้า ส่วนวัชพื้นที่แห้งปล่อยให้ย่อยสลายเป็นปุ๋ย
ข้อดีของการใช้เครื่องพ่นยาไฟฟ้า ตรานกเงือก/ตราม้าบิน
1.ประหยัดค่าใช้จ่าย |
-ชาร์ดไฟฟ้า 1 ครั้งประมาณ 1 บาท |
2.เบาแรง ทนทาน |
-ตัวถังวัสดุโพลีเอสทีลีนน้ำหนักเบา เหนียวแข็งแรงทนทานใช้งานได้หลายปี |
3.มอเตอร์ |
-สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องไม่ไหม้ ไม่เสียง่ายไม่ว่าจะงานหนักหรืองานเบา |
4.แบตเตอร์รี่ |
-คุณภาพสูงให้กำลังไฟสม่ำเสมอใช้งานได้หลายปี (ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเสี่ยมสภาพเร็ว) |
5.ปลอดภัยไม่มีอันตราย |
-ปลอดภัยในการใช้ ใช้ได้ทั่งเด็กและผู้ใหญ่ |
6.ซ่อมง่าย |
-มีอะไหล่จำหน่ายสามารถซ่อมเองได้ |
มีผู้แทนจำหน่ายคอยดูแลและให้คำปรึกษาตลอดอายุการใช้งาน ต้องการเครื่องพ่นยาไฟฟ้านึกถึง เครื่องพ่นยาไฟฟ้าตรา
นกเงือก และตราม้าบินเท่านั้น...!เกษตรกรส่วนใหญ่มั่นใจ
แนะนำวิธีการใช้สวิทช์เปิด-ปิด, เร่ง-เบาของเครื่อง
VDO แนะนำการใช้เครื่องพ่นยา ตรานกเงือก
เครื่องพ่นยา ตราม้าบิน
ฉีดได้ไกล ระดับยอดต้นมะม่วง/จำหน่ายพร้อมอะไหล่
อุปกรณ์ภายในกล่อง
รูปแสดงการทำงานของหัวฉีดแบบต่างๆ เครื่องพ่นยา ตราม้าบิน
การเลือกใช้งานเครื่องพ่นยา และวิธีการดูแลรักษา
อุปกรณ์การเกษตร เครื่องพ่นยา หรือ ถังพ่นยา นั้นเป็นเครื่องมือสำหรับการใช้งานฉีดพ่นสารพ่นยา หรือปุ๋ยน้ำต่างๆ โดยฉีดพ่นให้กับต้นไม้ ต้นไร่ เพื่อการดูแลรักษา หรือเพื่อทำให้ต้นไม้นั้นออกดอกออกผลตามต้องการ สำหรับเครื่องพ่นยาตามท้องตลาดจะมีจำหน่ายอยู่มากมายหลายประเภท เช่น
1. เครื่องพ่นยาไฟฟ้า
เป็นเครื่องพ่นยาแบบที่ใช้แบตเตอรี่ชาร์จไฟฟ้า หรือแบตแห้งในการทำงาน ไม่ต้องใช้คันโยกให้เมื่อยแรงครับ โดยเครื่องพ่นยาแบบนี้จะมีแรงดันมากกว่าเครื่องพ่นยาแบบที่ใช้มือโยก แต่ราคาก็จะสูงกว่า ส่วนในเรื่องอายุการใช้งานของเครื่องพ่นยาไฟฟ้าใช้งานได้นานหลายปี เครื่องพ่นยาแบบนี้ปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมสูงมากเนื่องจากไม่ต้องเต็มน้ำมัน ไม่ต้องโยก มีกำลังพ่นสูงเทียบเท่ากับเครื่องยนต์แบบสะพายหลัง น้ำหนักเบา ใช้งานง่ายสะดวก เนื่องจากไม่มีเครื่องยนต์มีแต่มอเตอร์กับแบต จึงสะดวกต่อการดูแลรักษา ประหยัดค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟแต่ละครั้งเสียค่าไฟไม่เกิน 2 บาทใช้งานได้หลายชั่วโมง ปัจจุบันมีหลากหลายคุณภาพให้เลือกทั่งสินค้าภายในประเทศและของจีนนำเข้า จะมีราคาถูก
เครื่องพ่นยาไฟฟ้า
2. เครื่องพ่นยาแบบมือโยก
หรือเครื่องพ่นยาสูบนอก-สูบใน เป็นเครื่องพ่นยาที่มีราคาถูก ประมาณเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น เครื่องพ่นยาแบบนี้จะมีความแข็งแรงทนทานสูง แต่ก็มีข้อเสีย คือ ไม่สามารถใช้พ่นในระยะไกลๆ ได้ และการใช้คันโยกขณะฉีดพ่นยาก็ต้องโยกคันโยกที่ติดกับตัวเครื่อง เพื่อฉีดน้ำยาออกมา ก็จะทำให้เกิดความเมื่อยล้าได้
เครื่องพ่นยาแบบมือโยก
3. เครื่องพ่นยาแบบใช้เครื่องยนต์สะพายหลัง
เป็นเครื่องพ่นยาแบบที่ใช้กำลังเครื่องยนต์ในการฉีดพ่นน้ำยา โดยเครื่องพ่นยาแบบเครื่องยนต์สามารถฉีดพ่นน้ำยาออกมาได้ไกล โดยเครื่องพ่นยาชนิดนี้จะเหมาะกับเกษตรกร ชาวสวน ที่ต้องการฉีดพ่นยาในบริเวณพื้นที่ที่มีขนาดกว้าง เครื่องพ่นยาแบบเครื่องยนต์นั้นจะแบ่งออกเป็นอีก 3 แบบ คือ แบบที่พกพาได้ แบบที่สะพายหลังได้ และแบบเครื่องพ่นยา 3 สูบ ตั้งพื้น ซึ่งเครื่องพ่นยาแบบใช้เครื่องยนต์นั้นก็จำเป็นที่จะต้องใช้น้ำมัน(เบนซิน ออโตลูป) ในการทำงานเช่นกัน
เครื่องพ่นยาแบบใช้เครื่องยนต์ (แบบสะพายหลัง)
เครื่องพ่นยา เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานของเกษตรกร ชาวสวน ชาวนา ให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายยิ่งขึ้น และช่วยทุ่นแรงได้อย่างมาก ดังนั้นในการเลือกซื้อ ก็ต้องเลือกซื้อเครื่องพ่นยาแบบที่เหมาะสมกับการทำงานของท่านเกษตร เพื่อที่จะได้ช่วยประหยัดค่าใช่จ่าย และช่วยประหยัดเวลาได้
การดูแลรักษาอุปกรณ์เครื่องพ่นยา
การดูแลรักษาเครื่องพ่นยาที่ผู้ใช้งานจะต้องให้ความสําคัญเป็นอันดับแรกเลยก็คือ ความสะอาดของเครื่องพ่นยา จะต้องหมั่นดูแลให้เกิดความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบอุปกรณ์ส่วนต่างๆ ของเครื่องพ่นยาในทุกๆ ส่วน ไม่ควรจะไปโฟกัสดูแลอยู่แค่เฉพาะส่วนที่ีเกิดความเสียหายเท่านั้น ซึ่งการบํารุงรักษาที่ดีคือการกันไว้ดีกว่าแก้ทีหลัง ถ้าหากว่าผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนอะไหล่เครื่องพ่นยาหรือซ่อมแซมอุปกรณ์ส่วนที่เสื่อมคุณภาพได้ทันก่อนที่จะเกิดความเสียหายจนใช้งานไม่ได้ ก็จะไม่ทําให้อุปกรณ์ส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกันเกิดความเสียหายตามมาครับ
ในเรื่องของการดูแลรักษาหัวฉีด ต้องระวังพวกสิ่งสกปรกแปลกปลอมเข้าไปอยู่ในหัวฉีด อาจจะมีพวกตะกอนติดมากับน้ำที่ใช้ผสมสารพ่นยา ซึ่งสามารถเข้าไปอุดตันหัวฉีดได้ ถ้าตะกอนเหล่านั้นไปติดอยู่กับส่วนลิ้นลูกสูบ หรือส่วนที่มีการใช้งานอยู่ตลอดเวลา อุปกรณ์ส่วนนั้นของเครื่องพ่นยานั้นก็จะสึกหรอเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ดังนั้นในการผสมยาแต่ละครั้งควรพยายามใช้นํ้าที่สะอาดในการผสมเสมอ และการทำความสะอาดควรหมั่นล้างด้วยนํ้าสะอาดหลายๆ ครั้ง
และถ้าหากหัวฉีดเกิดอุดตันในขณะที่กำลังฉีดพ่นยา ถ้าเป็นไปได้ให้ถอดเปลี่ยนมาใช้หัวฉีดใหม่ที่สํารองไว้ทันที พอหลังจากฉีดพ่นยาเสร็จแล้วจึงค่อยนําหัวฉีดเก่ากลับไปตรวจเช็คทําความสะอาดในทันที แต่ถ้าหากว่าผู้ใช้ไม่ได้มีหัวฉีดใหม่สํารองไว้ก็ต้องหานํ้าสะอาดมาเพื่อที่จะล้างหัวฉีด และถ้าล้างแล้วยังฉีดไม่ค่อยออกให้ใช้วิธีการเคาะหัวฉีดเบาๆ อย่าใช้ปากเป่า หรือเอาเข็ม หรือตะปู หรือลวด มาใช้แทงรูหัวฉีดเด็ดขาด เพราะจะทําให้เกิดความเสียหายกับหัวฉีดได้
ทำความรู้จักกับ เครื่องพ่นยา ถังพ่นยา กำจัดวัชพืชในงานเกษตร
เครื่องพ่นยา เป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่นิยมใช้ในการควบคุมและกำจัดวัชพืชต่างๆ โดยการฉีดพ่นยา พ่นสารเคมี ที่ใช้กำจัดวัชพืชออกมา เพื่อดูแลรักษาต้นไม้ ต้นไร่ ซึ่งในบทความนี้จะนำเสนอเกี่ยวกับเครื่องพ่นยาแบบที่มีสายสะพายหลัง ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันมากครับ
การทำงานของเครื่องพ่นยานั้นทำงานโดยอาศัยการดันโยกลูกสูบด้วยคันโยกที่อยู่บริเวณด้านข้างช่วงล่างของถังพ่นยา ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้ฉีดพ่นยาในบริเวณที่มีพื้นที่ไม่กว้างนัก และการใช้คันโยกขณะฉีดพ่นยาก็ต้องโยกคันโยกที่ติดกับตัวเครื่อง เพื่อฉีดน้ำยาออกมา ก็จะทำให้เกิดความเมื่อยล้าได้ (ปัจจุบันได้มีเครื่องพ่นยาชนิดที่ใช้แบตเตอรี่สามารถทำงานได้เพียงแค่ใช้มือบีบก็ฉีดพ่นยาออกมาได้แล้วไม่ต้องใช้คันโยกให้เมื่อย ซึ่งสะดวกสบายขึ้นมาก)
ส่วนประกอบหลักของเครื่องพ่นยาแบบมีสายสะพายหลัง
1. ถังสำหรับบรรจุน้ำยา ตัวถังบรรจุน้ำยาอาจจะทำมาจากสะแตนเลส เหล็กเคลือบสังกะสี หรือพลาสติก ซึ่งในปัจจุบันจะนิยมผลิตถังที่ทำจากพลาสติกออกมาแทน เนื่องจากมีราคาถูก และเมื่อใช้สะพายหลังแล้วทำให้รู้สึกสบายและเบากว่าถังที่ทำจากโลหะมาก ถังน้ำยาส่วนใหญ่จะมีความจุอยู่ที่ประมาณ 16-25 ลิตร และตรงปากถังจะมีตะแกรงกรองซึ่งเกี่ยวไว้กับปากถัง เอาไว้สำหรับกรองพวกตะกอนหรือสิ่งสกปรกที่อาจจะติดมากับน้ำที่ใช้ผสมสารพ่นยาได้
2. สายสะพายหลัง เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถพกพาเดินไปฉีดพ่นยาได้อย่างสะดวกสบาย โดยสายสะพายหลังที่ดีนั้นต้องสามารถปรับความยาวสายได้ เพื่อให้เครื่องพ่นยาอยู่แนบกับหลังได้อย่างพอดี
3. คันโยก (ถ้าเป็นเครื่องพ่นยาไฟฟ้าหรือแบบเครื่องยนต์จะไม่มี หรือจะมีในบางรุ่นที่เป็นแบบ 2 in 1) ซึ่งจะติดตั้งอยู่บริเวณด้านข้างถัง ซึ่งจะมีให้เลือกใช้ทั้งชนิดที่มีคันโยกติดอยู่ที่บริเวณด้านซ้ายหรือด้านขาว แล้วแต่ความถนัดของผู้ใช้งาน
4. ก้านฉีด พร้อมมือบีบพ่นน้ำยา โดยทั่วไปก้านฉีด 1 ก้าน จะสามารถติดหัวฉีดมา 1 หัว แต่ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนไปใช้หัวฉีดแบบหลายหัวได้ตามความต้องการ ส่วนมือบีบพ่นน้ำยานั้น บางอันจะติดตั้งตัวล๊อคมือบีบเอาไว้ด้วย เพื่อให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องคอยใช้มือบีบพ่นยาตลอดเวลา
5. หัวฉีด เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการทำงานของเครื่องพ่นยา เพราะเป็นตัวกำหนดการไหลและการกระจายละอองของสารพ่นยาให้ออกมาอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากเครื่องพ่นยาแบบที่ใช้สูบโยก หรือแบตเตอรี่ แล้วยังมีเครื่องพ่นยาแบบเครื่องสะพายหลังชนิดที่ติดเครื่องยนต์ ใช้ฉีดพ่นโดยปั๊มแรงดันน้ำที่แรงและฉีดพ่นยาได้ไกล ทำให้สามารถฉีดพ่นยาให้กับต้นไม้ที่มีความสูงได้ และสามารถทำงานได้ดีกว่าเครื่องพ่นยาแบบใช้สูบโยก หรือแบตเตอรี่ แต่เครื่องพ่นยาแบบติดเครื่องยนต์นั้นก็มีราคาแพงกว่า กับอีกแบบหนึ่งคือ เครื่องพ่นยาแบบตั้งพื้น(อาจจะมีล้อเข็นด้วย) ใช้เครื่องยนต์พ่นยาแบบใช้แรงดันน้ำ เป็นเครื่องพ่นยาขนาดใหญ่ สามารถฉีดพ่นยาได้ไกลและรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถบรรจุน้ำยาได้ถึง 200 ลิตรเลยทีเดียว
เทคนิคการใช้งาน เครื่องพ่นยา สำหรับ ฉีดพ่นยา กำจัดวัชพืช
เครื่องพ่นยา ไม่ว่าจะเป็นแบบใดก็ตามแต่นั้นถูกออกแบบออกมาเพื่อให้ชาวสวนสามารถนำไปใช้งาน ฉีดพ่นยา พ่นสารเคมีได้อย่างทั่วถึง และช่วยทุ่นแรง โดยเครื่องพ่นยานั้นจะมีหัวฉีดที่เป็นตัวบังคับการไหลและกระจายตัวของละอองยาให้สม่ำเสมอ ซึ่งหัวฉีดจำเป็นจะต้องมีหลายหัวไว้สำรองเปลี่ยน เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานฉีดพ่นยาของเครื่องพ่นยาในแต่ละแบบ
แนวทางในการควบคุมและกำจัดวัชพืชให้กับต้นไม้ ต้นไร่ พืชผลทางการเกษตร นั้นมีมากมายหลากหลายวิธี และการใช้สารกำจัดวัชพืชก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว แต่การที่จะฉีดพ่นยา พ่นสารเคมีในการกำจัดวัชพืชให้ได้ประสิทธิภาพนั้น นอกจากจะต้องใช้สารเคมีให้ถูกต้องแล้ว การเลือกใช้ เครื่องพ่นยา ถังพ่นยา รวมทั้งวิธีการใช้งาน ที่ถูกต้อง ควบคู่กันไปด้วย อย่างไรก็ตามการใช้สารเคมีในการกำจัดวัชพืชนั้นก็ส่งผลเสียอย่างหนึ่ง คือ ในแต่ละปีจะมีการใช้สารเคมีในการกำจัดวัชพืชกันเป็นจำนวนมากและในอนาคตต่อไปก็จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี เนื่องจากการฉีดพ่นยาด้วยเครื่องพ่นยานั้นมีความสะดวกและรวดเร็วมาก แต่เกษตรกรชาวสวนบางท่านไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการใช้สารเคมีเป็นจำนวนมาก และ การศึกษาเทคนิคหรือวิธีที่จะช่วยให้การใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ ดังนั้นการศึกษาให้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชให้ถูกวิธีและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด จะเป็นประโยชน์แก่เกษตรกรชาวสวนได้อย่างมาก อีกทั้งยังเป็นการช่วยรักษาธรรมชาติและสภาพแวดล้อมอีกด้วย
ทุกครั้งที่จะทำการฉีดพ่นยา พ่นสารเคมีกำจัดแมลง กำจัดวัชพืช นั้นจำเป็นที่จะต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวัชพืชเหล่านั้น เช่น สภาพพื้นที่ที่วัชพืชชอบอยู่ และชนิดของสารเคมีที่จะใช้ในการกำจัดแมลงหรือวัชพืช เมื่อทราบข้อมูลเหล่านั้นและอุปกรณ์เครื่องพ่นยา ถังพ่นยา ที่จะใช้แล้ว สิ่งที่จะต้องทำต่อมาก็คือการคำนวณอัตราการไหลของน้ำยาที่ฉีดพ่นออกมาจากหัวฉีดของเครื่องพ่นยา ถ้าเป็นหัวฉีดโดยมาตรฐานแล้วก็จะมีคู่มือบอก แต่ถ้าไม่มีคู่มือบอก ท่านชาวสวนก็สามารถที่จะทำการคำนวณแบบง่ายๆ ได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
1. การหาอัตราฉีดพ่นของหัวฉีด เติมน้ำเปล่าลงในถังพ่นยาและอัดความดันลงในถังจนเต็ม ทดลองฉีดพ่นน้ำด้วยหัวฉีดที่เลือกใช้ จากนั้นจับเวลาดูอัตราการฉีดพ่นภายใน 1 นาที ทำซ้ำหลายๆ ครั้ง แล้วมาหาค่าเฉลี่ย จะทำให้รู้ว่าหัวฉีดนั้นมีอัตราการฉีดพ่นเฉลี่ยต่อนาทีเท่าไร
2. การหาระยะความกว้างของหัวฉีด โดยปกติการฉีดพ่นสารเคมี ชาวสวนควรจะยกหัวฉีดให้อยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 50 เซนติเมตร แล้วทดลองฉีดพ่นน้ำออกมา เพื่อดูระยะความกว้างของหัวฉีด ซึ่งจะช่วยป้องกันการฟุ้งกระจายของละอองออกมาเกินความจำเป็น แต่ก็อาจจะยกสูงขึ้นกว่านี้ได้ตามความเหมาะสม
ข้อควรระวัง !! การฉีดพ่นยาด้วยก้านฉีดแรงดันสูง ชาวสวนจะต้องฉีดในลักษณะขึ้น-ลงพร้อมกับเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ห้ามฉีดส่ายไปมาเด็ดขาด และที่สำคัญอย่าฉีดใต้ลม เพื่อป้องกันละอองสารเคมีปลิวเข้าหาตัว
สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำขณะใช้เครื่องพ่นยาฉีดพ่นสารเคมี
- สวมเสื้อผ้าคลุมตัวให้มิดชิด ใส่ถุงมือ หมวก และหน้ากาก ให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันไม่ให้ละอองสารเคมีมาโดนตัว
- อย่ารับประทานอาหาร ดื่มน้ำหรือสูบบุหรี่ ในขณะที่กำลังผสมสารเคมีหรือขณะที่กำลังฉีดพ่นสารเคมี
- ถังที่บรรจุสารเคมี เมื่อเลิกใช้แล้วต้องการทำลายทิ้ง อย่าโยนลงน้ำ ลงบ่อ ลงคลอง เด็ดขาด หรือแม้แต่การล้างถังแล้วเทน้ำที่ล้างลงในน้ำ
สำหรับการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชนั้น ชาวสวนจำเป็นต้องมีความรู้ทางด้านการใช้งานเครื่องพ่นยา ว่าควรจะต้องใช้ในสภาพพื้นที่แบบไหนและควรใช้เครื่องพ่นยาชนิดใด
เงื่อนไขการรับประกัน
รับประกันเฉพาะลูกค้าที่โอนเงินสั่งซื้อโดยตรงกับทางเว็บเท่านั้น www.hornbills.info ซึ่งจะมีการเก็บประวัติการสั่งซื้อสินค้า
เปลี่ยนได้ภายใน 7 วัน
กรณีสินค้าส่งไปแล้วเกิดการแตกหักเสียหายจากการขนส่ง หรือ เกิดการผิดพลาดจาการผลิตลูกค้าต้องแจ้งกลับมาทันที่
กรณีแตกหักเสียหายจากการขนส่ง ลูกค้าต้องแจ้งกลับมาทันที่ ที่ได้รับสินค้า
กรณีเกิดการผิดพลาดจากการผลิต แจ้งกลับมาภายใน 7 วัน (นับจากวันที่รับสินค้า)
รับประกันแบต และ มอเตอร์ภายใน 6 เดือน
รับประกันเฉพาะการผิดพลาดจากการผลิต ไม่รวมการใช้ที่ผิดปกติ หรือ ไม่ถูกวิธี เช่น มอเตอร์หรือแบตเสียหายจากการโดยน้ำ จาก ไฟฟ้าลัดวงจร หรือสาเหตุอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับการผลิต
แบตเตอร์รี่กรณีไม่ได้ใช้งานนานๆจะต้องชาร์จแบตไว้อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
รับประกันซ่อม ฟรี นาน 1 ปี ค่าซ่อมฟรีทุกรณี
หมายเหตุ:ค่าส่งซ่อมต่างๆลูกค้าเป็นผู้ออก