spec สเปค iPhone 5S
ราคา iphone5s และ iphoen5c
สรุปข้อมูล iPhone 5S จากงานเปิดตัวของ Apple เมื่อคืนวันที่ 10 กันยายน 2556
สเปค iPhone 5S
ชิปประมวลผล Apple A7 ซึ่งเป็นชิปสำหรับสมาร์ทโฟนตัวแรกที่รองรับการประมวลผลแบบ 64-bit (แต่ก็ยังใช้ทุกแอพบน App Store ได้เหมือนเดิม) แรม 1 GB หน้าจอขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด 1136 x 640 Retina Display 326 ppi ตัวเครื่องหนา 7.6 มิลลิเมตร หนัก 112 กรัม ฝาหลังเป็นอะลูมิเนียมเช่นเดียวกับ iPhone 5 กล้องหลัง (iSight) ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 รองรับการถ่ายวิดีโอได้ความละเอียด 1080p กล้องหน้า (FaceTime) ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอได้ 720p ใช้นาโนซิม รองรับ 3G ทุกเครือข่าย รองรับ 4G LTE ด้วย มาพร้อม iOS 7 รองรับ Siri มีให้เลือก 3 สีคือเทา-ดำ (Space Grey), สีทองและสีขาว-เงิน ไม่มีสีดำแบบ iPhone 5 อีกแล้ว
ตารางเปรียบเทียบสเปค iPhone 5S, iPhone 5C และ iPhone 5
*** ราคาที่แปลงเป็นเงินไทย เป็นการประมาณการณ์จากการคำนวณค่าเงิน อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ และอาจไม่ตรงกับราคาขายจริงอย่างเป็นทางการในไทย ***
และแล้ว iPhone 5S ก็ได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วครับ ก่อนอื่นเรามาดูด้านสเปคก่อน
ราคา iPhone 5S
ราคา iPhone 5S แบบติดสัญญา 2 ปี ในสหรัฐฯ
- 16 GB = $199
- 32 GB = $299
- 64 GB = $399
ราคา iPhone 5S เครื่องเปล่าในสหรัฐฯ
- 16 GB = $649 (ราวๆ 21,000 บาท)
- 32 GB = $749 (ราวๆ 24,000 บาท)
- 64 GB = $849 (ราวๆ 27,000 บาท)
ราคา iPhone 5S เครื่องไม่ติดสัญญา (Unlocked) ในออสเตรเลีย
- 16 GB = A$ 869 (ราวๆ 25,900 บาท)
- 32 GB = A$ 999 (ราวๆ 29,900 บาท)
- 64 GB = A$ 1,129 (ราวๆ 33,900 บาท)
ราคา iPhone 5S เครื่องไม่ติดสัญญา (Unlocked) ในสิงคโปร์
- 16 GB = S$ 988 (ราว 25,000 กว่าบาท)
- 32 GB = S$ 1,148 (ราว 29,000 กว่าบาท)
- 64 GB = S$ 1,288 (ราว 32,000 กว่าบาท)
ส่วนราคา iPhone 5S ในไทย คงต้องมารอลุ้นกันอีกทีครับ ว่าจะเปิดมาที่เท่าไร แต่ดูแล้วน่าจะเปิดมาที่ราคาเท่ากับ iPhone 5 มือหนึ่ง
กำหนดการวางขาย iPhone 5S
Apple จะเริ่มเปิดขาย iPhone 5S วันแรกในวันที่ 20 กันยายนนี้ ใน 9 ประเทศแรก เช่น สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, จีน และที่น่าสนใจที่สุดคือสิงคโปร์ครับ และจะเริ่มวาง ดังนั้นเราอาจจะได้เห็น iPhone 5S เครื่องหิ้วเข้ามาขายตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนนี้เลยก็เป็นได้
จุดเด่นของ iPhone 5S
- มาพร้อมชิปประมวลผล Apple A7 ซึ่งเป็นชิปสำหรับสมาร์ทโฟนตัวแรกที่รองรับการประมวลผลแบบ 64-bit
- iPhone 5S เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่ทำงานในระบบ 64-bit เต็มรูปแบบ ทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์อย่าง iOS 7 (แต่ก็ยังใช้งานแอพทุกตัวบน App Store ได้ตามปกติ)
- iPhone 5S จะมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้นกว่า iPhone 5 สองเท่า และดีกว่า iPhone รุ่นแรกถึง 40 เท่า ส่วนด้านกราฟิกก็จะดีกว่า iPhone รุ่นแรกถึง 56 เท่า
- รองรับ OpenGL 3.0 ทำให้กราฟิกของเกมดูสวยสมจริงขึ้น
- ติดตั้งชิปช่วย ประมวลผลชื่อว่า M7 ซึ่งใช้สำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหวจาก Accelerometer, Gyroscope และเข็มทิศในเครื่อง เพื่อลดการทำงานของชิปหลักอย่าง A7 ลง ทำให้ระบบโดยรวมกินไฟน้อยลง
- ตัวเครื่องบาง 7.6 มิลลิเมตรเท่า iPhone 5
- หนัก 112 กรัมเท่า iPhone 5
- จอขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด 1136 x 640 เท่า iPhone 5
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานขึ้นกว่า iPhone 5 เล็กน้อย
- รองรับ 3G ทุกเครือข่าย รองรับ 4G LTE ในไทยแน่นอน
- ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้ปุ่มโฮม ใช้ชื่อว่า Touch ID ผิวปุ่มโฮมใช้กระจก Sapphire กันรอยขีดข่วน
- สามารถวางนิ้วทิศ ทางใดก็ได้ หน้าที่ของ Touch ID คือสามารถใช้ปลดล็อกเครื่อง ใช้แทนรหัสผ่านสำหรับซื้อแอพ ซื้อเพลง และอาจจะรองรับแอพอื่นเพิ่มในอนาคต ทำให้ไม่ต้องมานั่งกดรหัสผ่านอีกต่อไป
- กล้องหลังใช้ เซ็นเซอร์รับภาพขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 15% มาพร้อมเลนส์รูรับแสงกว้างขึ้นเป็น f/2.2 รับแสงได้ไวขึ้น 33% ช่วยให้ภาพถ่ายสวยขึ้น สว่างขึ้น แม้จะความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเท่าเดิม
- มาพร้อมแฟลชคู่ (True Tone) ที่ยิงแสงแฟลชคนละอุณหภูมิสีออกมาแบบอัตโนมัติ ใช้ได้กับแสงกว่าพันรูปแบบ เพื่อให้ภาพในที่มืดสวยยิ่งขึ้น
- สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่เฟรมเรตสูงถึง 120 fps ที่ความละเอียด 720p (สามารถถ่ายสโลว์โมชันได้)
- มีให้เลือก 3 สี คือ เทา-ดำ (Space Grey), สีทองและสีขาว-เงิน ไม่มีสีดำแบบ iPhone 5 อีกแล้ว
เจาะฟีเจอร์เด่นของ iPhone 5S
ชิปประมวลผล
iPhone 5S มาพร้อมกับชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Apple A7 ที่มีพลังในการประมวลผลมากกว่าชิปรุ่นเดิม โดยถ้าเทียบแล้วจะเป็นดังนี้
- iPhone 5S แรงกว่า iPhone 5 สองเท่า
- iPhone 5S แรงกว่า iPhone รุ่นแรกถึง 20 เท่า
- ด้านกราฟิก แรงกว่า iPhone รุ่นแรกถึง 56 เท่า
โดยนอกเหนือจากด้านของความแรงแล้ว ชิป A7 ใน iPhone 5S ยังมาพร้อมคุณสมบัติสำหรับชิปประมวลผลยุคใหม่ นั่นคือความสามารถในการประมวลผลชุดคำสั่งแบบ 64-bit ได้เป็นครั้งแรกในสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ต ทำให้ iPhone 5S กลายเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่สามารถทำงานในสถาปัตยกรรมระดับ 64-bit ได้ (ที่ได้รับการเปิดตัว เตรียมวางขายจริงอย่างเป็นทางการ) เทียบเคียงกับคอมพิวเตอร์พีซี ซึ่งประโยชน์หลักๆ ของการประมวลผลแบบ 64-bit ก็คือความสามารถในการรับส่งข้อมูล การประมวลผลข้อมูลต่อหนึ่งรอบคำสั่งที่มากขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมสูงขึ้นกว่าเดิมพอสมควร
ซึ่งการจะใช้งานระบบ 64-bit นั้น จำเป็นจะต้องรองรับเกื้อหนุนกันทั้งฝั่งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ในงานนี้ Apple จึงได้ฤกษ์ประกาศว่า iOS 7 ที่จะเปิดให้ใช้งานเต็มรูปแบบในวันที่ 18 กันยายนเป็นต้นไปนี้ รองรับการทำงานแบบ 64-bit ในตัว พร้อมทั้งสามารถรันแอพได้ทั้ง 32-bit ในปัจจุบัน และ 64-bit ที่จะค่อยๆ ได้รับการเปลี่ยนถ่ายต่อไปในอนาคต ส่วนทูลสำหรับเขียนแอพ iOS อย่าง Xcode เองก็ได้รับการอัพเดตให้สามารถเขียนแอพ 64-bit ได้แล้วเช่นกันครับ
*** iPhone 5S สามารถใช้งานได้ทุกแอพบน App Store ตามปกติ ***
ชิปประมวลผลเสริม (Coprocessor)
นอกเหนือจากจะมีชิปตัวใหม่อย่าง Apple A7 แล้ว ใน iPhone 5S ก็ยังมีชิปประมวลผลเสริมมาให้อีก 1 ตัว นั่นคือชิปที่มีชื่อว่า M7 ที่ เข้ามาจัดการในส่วนของการจับการเคลื่อนไหว (Motion) โดยเฉพาะ นั่นคือจะรับหน้าที่ประมวลผลข้อมูลจากเซ็นเซอร์จำพวก Accelerometer, Gyroscope และ เข็มทิศดิจิตอลในตัว เพื่อลดการทำงานของ A7 ลง (ส่งผลให้กินแบตโดยรวมน้อยลงด้วย)
ซึ่งการที่ชิป M7 ถูกออกแบบมาให้มีหน้าที่เฉพาะ ทำให้มันสามารถจับและประมวลผลข้อมูลการเคลื่อนไหวได้แม่นยำกว่าชิปประมวลผล หลักอีกด้วย ตัวอย่างสถานการณ์ที่ชิป M7 ทำงานก็เช่นการสลับการนำทางของ Maps จากการขับรถไปเป็นการเดิม เมื่อมันตรวจจับว่าเรากำลังเดินอยู่ หรือระหว่างที่เราขับรถ ระบบก็จะตัดการทำงานของ Wi-Fi ไม่ให้พยายามจับสัญญาณที่เจอ เพื่อลดการกินแบตเตอรี่ลง
Touch ID
เรียกง่ายๆ ว่ามันก็คือปุ่มโฮมที่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเข้ามา ตามข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้นั่นเองครับ โดยตัวเซ็นเซอร์จะถูกฝังเอาไว้ใต้ปุ่มโฮมเลย การใช้งานก็ง่ายมาก เพียงแค่วางนิ้วแตะลงไปบนปุ่มโฮมเท่านั้นเอง สามารถวางนิ้วในทิศทางองศาใดก็ได้ ซึ่งก่อนจะใช้งานได้ ก็จำเป็นจะต้องเก็บข้อมูลลายนิ้วมือของเราด้วยการสแกนเข้าไปเก็บไว้ใน เครื่องก่อน โดยสามารถเก็บลายนิ้วมือได้หลายแบบ ประโยชน์ของ Touch ID ก็คือการใช้แทนรหัสผ่านยืนยันตัวตน ซึ่งในขณะนี้สามารถใช้งานได้ในรูปแบบดังนี้
- ใช้ปลดล็อกหน้าจอแทนรหัสผ่านปกติ
- ใช้แทนรหัสผ่านสำหรับการซื้อเพลงจาก iTunes หรือซื้อแอพจาก App Store
- อาจจะรองรับแอพอื่นๆ จากผู้ผลิตแอพแบบ 3rd party ในอนาคต
ซึ่งเรื่องความแม่น ยำ Apple ก็โฆษณาว่าระบบการอ่านลายนิ้วมือของ Touch ID ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี สามารถอ่านและเก็บข้อมูลลายนิ้วมือได้อย่างละเอียดกว่าที่เคยมีมาในอุปกรณ์ สแกนลายนิ้วมือของเครื่องอื่นๆ อีกทั้งยังใช้ส่วนประมวลผลเฉพาะที่ฝังไว้ในชิป Apple A7 อีก ทำให้สามารถทำงานได้รวดเร็ว ใช้งานได้ง่าย และจะทำให้ระบบนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นระบบหลักในอนาคต
ฮาร์ดแวร์กล้องที่ดีขึ้น
และแล้ว Apple ก็ไม่ได้ดันให้ความละเอียดกล้องสูงขึ้นจาก 8 ล้านพิกเซลไปเป็น 13 ล้านพิกเซลอย่างที่ลือครับ แต่หันมาให้ความสนใจในด้านการปรับฮาร์ดแวร์ภายในแทน โดยใน iPhone 5S จะใช้เซ็นเซอร์รับภาพของกล้องหลังที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจากใน iPhone 5 ราว 15% ขนาดเม็ดพิกเซลใหญ่ขึ้นเป็น 1.5 ไมครอน ที่ Apple ใช้คำโฆษณาแบบชัดๆ เลยว่า ยิ่งเม็ดพิกเซลใหญ่ขึ้น ก็ยิ่งทำให้ภาพถ่ายมีคุณภาพดีขึ้น ด้านของชุดเลนส์ก็ใช้ด้วยกัน 5 ชิ้น เพิ่มความกว้างรูรับแสงเป็น f/2.2 จากใน iPhone 5 ที่ใช้เพียง f/2.4
ซึ่งจากฮาร์ดแวร์โดยรวมแล้ว ก็น่าจะทำให้ได้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพดีขึ้น ในความละเอียดภาพ 8 ล้านพิกเซลเท่าเดิม
แฟลช True Tone
นับว่าเป็นอีกเรื่องที่มีการลือมาระยะหนึ่ง สำหรับข่าวที่ว่า iPhone 5S จะมาพร้อมแฟลช LED แบบคู่ ซึ่งก็มาจริงตามข่าวครับ ในชื่อว่า True Tone โดยแฟลชคู่ที่ติดตั้งมาใน iPhone 5S จะเป็นหลอด LED ที่ให้แสงสว่างอุณหภูมิสีไม่เท่ากัน เพื่อให้สามารถชดเชยโทนแสงให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมมากที่สุดแบบอัตโนมัติ ซึ่ง Apple เคลมว่าสามารถใช้งานได้กับสภาพแวดล้อมแสงไม่ต่ำกว่า 1,000 รูปแบบเลยทีเดียว โดยหลักๆ แล้วจะช่วยให้สีโทนผิวเวลาถ่ายรูปในที่มีแสงน้อยออกมาได้ดีขึ้น เป็นธรรมชาติมากขึ้น นับว่าเป็นการแก้ไขจุดบกพร่องของ iPhone ด้านการถ่ายรูปในที่มีแสงน้อยไปได้พอสมควรเลย
โหมดการถ่ายรูป/วิดีโอ
iPhone 5S มีโหมดการถ่ายรูปและวิดีโอเข้ามาใหม่ 2 โหมดด้วยกัน ได้แก่
- โหมด Burst-shot สำหรับถ่ายภาพรัว สามารถถ่ายได้ 10 ภาพต่อวินาที
- โหมดถ่าย Slow Motion ซึ่งสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียด 720p ที่เฟรมเรต 120 fps โดยผู้ใช้สามารถมาเลือกได้เองว่าจะให้ส่วนไหนของวิดีโอเป็นภาพแบบ slow motion
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเรื่องการแก้ไขปัญหาภาพสั่นขณะถ่ายรูปอีกด้วย โดยระบบจะทำการเก็บภาพอย่างรวดเร็ว 4 ภาพ จากนั้นก็นำทั้ง 4 ภาพมาตัดต่อเข้าด้วยกัน เพื่อแก้ไขอาการสั่นไหว สีและความสว่างเพื่อให้ภาพออกมาดูดีที่สุด
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก iPhone 5S
ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่
เรื่องของระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ คงต้องรอดูรีวิว iPhone 5S จริงๆ อีกทีครับ ว่าจะใช้ได้นานขนาดไหน ซึ่งทาง Apple เคลมว่าสามารถใช้งานได้นานกว่า iPhone 5 นะ
แอพฟรี
ในการเปิดตัว iPhone 5S และ iPhone 5C ครั้งนี้ Apple ยังประกาศอีกด้วยว่าจะแจกแอพของตนอย่าง iPhoto, iMovie, Keynote, Numbers และ Pages บน iOS ให้ฟรี แต่สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับ iOS 7 ที่เปิด activate ใช้งานครั้งแรกหลังวันที่ 1 กันยายนเท่านั้น เท่า กับว่าใครซื้อ iPhone 5S, iPhone 5C หรือจะเป็นเครื่องรุ่นอื่นๆ ที่ใช้งาน iOS 7 ได้ และเปิด activate เพื่อใช้งานครั้งแรกหลังวันที่ 1 กันยายนเป็นต้นมา ก็จะได้แอพทั้ง 5 ตัวข้างต้นไปฟรีๆ เลย
นอกจากนี้ยังมีเคสหนังเตรียมออกมาวางจำหน่ายคู่กับ iPhone 5S ด้วย ในราคา $39 ต่อชิ้น แปลงเป็นเงินไทยแล้วก็เกือบๆ 1,200 บาท
คราวนี้เรามาดูหน้าตา iPhone 5S กันบ้าง
iphone 5s,iphone5s,iphone5c,spec iphone5s,สเปค iphone5s,รีวิว iphone 5s,ข้อมูล iphone 5s,ราคา iphone 5s,ไอโฟน5s,ไอโฟน5เอส,สเปคไอโฟน5s >> เว็บไซต์อ้างอิง ถึงสินค้านี้ <<
|