.
ตะกร้า [0]
วันที่สร้างเว็บ :6/1/2011
ปรับปรุงเว็บครั้งล่าสุดเมื่อ :21/4/2013
จำนวนคนเข้าชมเว็บนี้ :250714


เซรั่มมะหาด
เซรั่มมะหาด

รายละเอียดสินค้า
ชื่อสินค้า / บริการ : เซรั่มมะหาด
รหัสสินค้า :000017
วันที่ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด : 12/12/2012
ราคาสินค้า(ปกติ) : 300.00
ค่าขนส่ง : แสดงในหน้าตะกร้าสินค้า
สถานะสินค้า : สินค้ามาใหม่
QTY :

เลขจดแจ้งสูตร อย.  10-1-5428169
ขนาด 12 ml. ราคา 300 บาท

 

เซรั่มบำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมหลักจากสารสกัดของแก่นต้นมะหาด มีประสิทธิภาพสูงในการลดเลือนฝ้า กระ จุดดางดำ และริ้วรอย เข้ม ข้นด้วยคุณค่าสมุนไพรธรรมชาตินานาชนิด เด่นด้วยคุณสมบัติในการแก้ไขปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำบนใบหน้าที่ต้นเหตุ พร้อมทั้งป้องกันการเกิดริ้วรอยและคืนความชุ่มชื้น ให้ผิวอย่างสมดุล ทำให้ผิวกระจ่างใสอย่างอ่อนโยนเป็นธรรมชาต ลดความร่วงโรยที่จะเกิดขึ้นกับผิวทุกประการ เผยผิวใหม่ที่แลดูกระจ่างใส เนียนเรียบ และอ่อนเยาว์

 

 ส่วนประกอบสำคัญ :

 

    Artocapus lakoocha extract สารสกัดธรรมชาติผลิตจากต้นมะหาด ออกฤทธิ์ยับยั้งการทางานของเอนไซม์ไทโรซิเนส ได้แรงกว่า licorice และ kojic acid แต่มีผลข้างเคียงน้อยกว่า และยังช่วยหยุดยั้งกระบวนการไกลเคชั่นที่ส่งผลให้โปรตีนของชั้นผิวมีโครง สร้างเปลี่ยนไป ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ สาเหตุของริ้วรอยเหี่ยวย่น

     Jojoba Oil  โจโจ้บาออยล์เป็นออยล์ที่มี คุณสมบัติคล้ายกับน้ำมันที่ผิวหนังเราผลิตออกมาตามธรรมชาติมากที่สุด สามารถซึมซาบสู่ชั้นผิวหนังกำพร้าได้เป็นอย่างดี เป็นสารให้ความชุ่มชื้นโดยธรรมชาติ ช่วยฟื้นฟูและเป็นประโยชน์ต่อทุกสภาพผิว โจโจ้บาออยล์เป็นน้ำมันที่ดีที่สุดสำหรับผิวหนัง มีคุณสมบัติบำรุงหล่อเลี้ยงผิวหนังและอุดมไปด้วยวิตามินอีและแร่ธาตุ ทำให้ผิวนุ่มนวลได้โดยไม่มันและเหนียวเหนอะหนะและไม่อุดตันผิว

       Vitamin E  วิตามินอี ให้ความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่น ต้านการอักเสบของผิว ต้านอนุมูลอิสระ เป็นวิตามินสารพัดประโยชน์และให้ฤทธิ์ที่ดีในตำรับเครื่องสำอาง

     Aloe extract สารสกัดจากว่านหางจระเข้ ช่วยปรับสมดุลน้ำและน้ำมันให้กับผิวหนัง บรรเทาอาการระคายเคืองจากสารเคมี แสงแดด มลภาวะ และทำให้ผิวชุ่มชื้น

     Allantoin อัลลันโทอิน ช่วยกระชับรูขุมขนและลดการระคายเคืองให้กับผิวหน้า

 

วิธีใช้ : ทาทั่วผิวหน้าบริเวณที่ต้องการ เช้า เย็น

 

Tips: เพื่อการเห็นผลที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ

ผิวธรรมดา-ผิวแห้ง แนะนำให้ใช้คู่กับ Perfect Melasma Clear Cream(สุตร1)

ผิวผสม-ผิวมัน แนะนำให้ใช้คู่กับ Le Proud Me;asma Clear Cream(สูตร2)

การใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มปรับผิวขาว ควรทากันแดดประสิทธิภาพสูงร่วมด้วยสม่ำเสมอ ในปริมาณที่เพียงพอ

 

นวัตกรรมใหม่แห่งการลดเลือนฝ้า กระ อย่างได้ผลและปลอดภัย ไม่ต้องพิ่งสารเคมี และหัตถการทางการแพทย์ ปลอดภัยคุณค่าสมุนไพรไทย " มะหาด" สมุนไพรที่หลายๆคนไม่ค่อยจะคุ้นชื่อ และอาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อน

 

มะหาด  เป็นไม้ยืนต้นในวงศ์ Moraceae ต้นกำเนิดจากทวีปเอเชียใต้ นิยมปลูกเอาไว้ใช้ประโยชน์ทุกส่วนของต้น สามารถเจริญเติบโตได้ในดินทราย ดินร่วนปนทราย ดินร่วน และ ดินเหนียว มีความทนทานต่อความแห้งแล้งได้ดีมาก ชอบบริเวณที่มีความชื้นสูงและแสงแดดเข้าถึงได้น้อย มักขึ้นกระจายตามป่าดิบทั่วไป

 

ในแต่ละภูมิภาค มะหาดจะมีชื่อเรียกต่างๆกันกล่าวคือ ภาคเหนือเรียก หาดหนุน ในจังหวัดเชียงใหม่เรียก ปวกหาด ภาคกลางเรียก หาด ทางภาคใต้เรียก มะหาด ในจังหวัดตรังเรียก มะหาดใบใหญ่ และตั้งแต่จังหวันราธิวาสถึงประเทศมาเลเซีย เรียก กาแย , ตะแป ตะแปง

 

ทุกๆส่วนของต้นมะหาดมีประโยชน์ในทางยา และมีการนำมาสกัดเป็นยาสมุนๆไพรเพื่อรับประทานมากันหลายชั่วอายุคน ภายหลังจึงได้มีการค้นพบว่าสารสกัดจากแก่นมะหาดมีส่วนช่วยในการลดฝ้า กระ และทำให้ผมดกดำ

 

 รู้จักมะหาดกับประสิทธิภาพในการปรับผิวขาว (ข่าวจาก นสพ. ผู้จัดการออนไลน์ ฉบับวันที่5 ธ.ค. 2545)

 

       คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ พบสูตรสมุนไพรไทย “แก่นมะหาด” ลดความเข้มของเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง มีผลทำให้ผิวขาวได้ ปลอดภัยและไม่ทำให้ระคายเคืองผิว รศ.ดร.กิตติศักดิ์ ลิขิตวิทยาวุฒิ (ส.ก.18117 เข้าสวนฯปี 2514; OSK อีกท่านจากสกุลนี้ คือ อภิรักษ์ ลิขิตวิทยาวุฒิ OSK112) และ รศ.ดร.ภาคภูมิ เต็งอำนวย อาจารย์ประจำภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งศึกษาวิจัย สมุนไพรช่วยให้ผิวขาวจากแก่นมะหาด” เปิดเผยว่า

 

       สารที่มีคุณสมบัติลดสีผิวและช่วยทำให้ผิวขาว มีหลายประเภทขึ้นอยู่กับกลไกการออกฤทธิ์ ทั้งนี้ สารที่ทำให้เกิดผิวขาวที่นิยมใช้มากที่สุดคือ สารขจัดสีผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารที่ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรสิเนส ซึ่งทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยา ตั้งต้นของกระบวนการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานิน สารเหล่านี้ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีราคาแพง การศึกษาวิจัยสมุนไพรไทยจากแก่นมะหาด เพื่อพัฒนาสารที่ช่วยทำให้ผิวขาว นับเป็นทางเลือกหนึ่งในการลดการนำเข้าสารเหล่านี้จากต่างประเทศ

 

     การศึกษาเรื่องสรรพคุณของมะหาดที่ทำให้ผิวขาวนั้นเริ่มเมื่อต้นปี 2541 โดยทำการสุ่มตัวอย่างพืชสมุนไพรหลายชนิดมาทดสอบฤทธิ์ในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรสิเนสในหลอดทดลอง จนกระทั่งพบว่าสารสกัดจากแก่นมะหาดให้ผลยับยั้งเอนไซม์ชนิดนี้มากที่สุด และมีความเป็นไปได้ที่จะนำสารชนิดนี้มาพัฒนา เป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ผู้วิจัยได้ทำการประเมินประสิทธิผลของสารสกัดจากแก่นมะหาดเป็นลำดับขั้น เริ่มจากการศึกษาในหนูตะเภา และการทดลองใช้ในอาสาสมัคร โดยช่วงแรกผู้วิจัยได้นำผงปวกหาดที่หาได้ง่ายมาทดลองใช้ เปรียบเทียบกับสารที่ช่วยทำให้ผิวขาวเป็นที่นิยมใช้อยู่ในปัจจุบันและมีราคาแพง

 

      ผลการทดลองพบว่าปวกหาดมีประสิทธิภาพในการลดความเข้มของสีผิวในหนูตะเภา ต่อมาได้ทำการศึกษาในอาสาสมัครจำนวน 4 คน โดยทาสารสกัดจากแก่นมะหาดที่แขนวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 4 สัปดาห์ และทำการวัดค่าความเข้มของสีผิวด้วยเครื่อง Mexameterพบว่าแขนที่ทาด้วยสารสกัดจากแก่นมะหาดมีแนวโน้มให้ค่าความเข้มของสีผิวลดลง นอกจากนี้ ยังไม่มีอาการแพ้หรือระคายเคือง ในที่สุดผู้วิจัยได้ศึกษาในอาสาสมัครจำนวนมากขึ้น คือ 60 คน ในระยะเวลา 12 สัปดาห์ โดยแบ่งอาสาสมัครออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 20 คน เป็นเพศหญิง อายุ 20–48 ปี มีสภาพผิวหนังปกติ จากการทาสารสกัดที่ต้นแขนของอาสาสมัครวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เปรียบเทียบกับอาสาสมัครที่ทาด้วยสารสกัดจากชะเอมและกรดโคจิก ผลการทดลองพบว่ากลุ่มอาสาสมัครที่ทาด้วยสารสกัดจากมะหาด จะมีผิวขาวขึ้นเรื่อย ๆ ความขาวของสีผิวจะเห็นผลในระยะเวลาเพียง 4 สัปดาห์ และจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างมีนัยสำคัญตามระยะเวลาที่ทำการทดลอง นอกจากนี้ ยังไม่พบอาการแพ้หรือระคายเคืองผิวแต่อย่างใด ในขณะที่สารสกัดจากชะเอมและกรดโคจิกให้ผลในการทำให้ผิวขาวในระยะเวลาที่นานกว่า คือ 10 และ 8 สัปดาห์ตามลำดับ

 

       ปัจจุบันการศึกษาวิจัยในเรื่องนี้อยู่ในขั้นตอนการทดลองพัฒนา ตลอดจนศึกษาถึงประสิทธิภาพและความคงตัวเมื่ออยู่ในสูตรตำรับต่าง ๆ เปอร์เซ็นต์ความเข้มข้นที่เหมาะสมสำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์ รวมถึงวิธีการสกัดสารจากแก่นมะหาดให้มีความบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น

 

       สินค้าตัวนี้เป็นที่นิยมในหมู่ลูกค้าคลินิกหมอผิวหนังในเขตภาคเหนือมากคะ เนื่องจากLab ที่วิจัยเป็นหมอสกินดังๆและอยู่ที่ มช. เลยมีการบอกต่อๆกันในคลีนิคที่ภาคเหนือเลยขายดีมาก ราคาสูงอาจจะสูงเพราะในสูตรเป็นสารสกัดจากธรรมชาติเกือบทั้งหมดแทบจะไม่มีสารสังเคราะห์เลย  คุณหมอนิยมใช้กับคนที่รักษาฝ้า ผิวแย่มากๆค่ะ ผลการวิจัยทางแพทย์ผิวหนังยอมรับในเรื่องทำให้ผิวขาวอมชมพูและสุขภาพดีเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง 2-3สัปดาห์ขึ้นไปและพบว่าเมือใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ ผิวจะอมชมพูและแลดูสุขภาพดีตลอดค่ะ ผลการวิจัยเรื่องเซลล์ผิวเมื่อเทียบกับ Licorice Extract ตัวมะหาดจะทำให้ชั้นผิวยืดหยุ่นและละเอียดขึ้นได้ลึกกว่า และยั้บยั้งเม็ดสีผิวได้ลึกกว่า Licorice

 

ผู้หญิง เรา พอเลยวัยรุ่นหน่อย จากปัญหาสิวที่เคยสร้างความรำคาญ ก็จะค่อยๆหายไป และเจอปัญหาใหม่ คือ ฝ้า กระ จุดด่างดำ ที่มาแทนที่ หรือผสมโรงกัน กลายเป็น 2 ปัญหารุมเร้า ไหนจะริ้วรอยที่จะเตรียมจะมาเยือนหรือก่อตัวสะสมอยู่ใต้ผิว จัดการกับฝ้า กระ โดยไม่กัดผิว ด้วย เซรั่มมะหาด ผลิตภัณฑ์ดูแลฝ้ากระนวัตกรรมใหม่

**เข้าใจก่อนซื้อคะ**

ฝ้า กระ ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ การใช้ผลิตภัณฑ์ปรับผิวขาวเพื่อลดฝ้า กระ จะทำให้สีของฝ้า กระจางลงได้ และอาจจะกลับมาเข้มขึ้นได้อีก หากมีปัจจัยกระตุ้นอื่นๆ เช่น การแกว่งของฮอร์โมน แสงแดด ร้านใดที่โฆษณาว่าฝ้า กระ หายได้ 100% ถือว่าหลอกลวง/เกินจริง แจ้ง สคบ.จับได้คะ

 

ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทุกชนิด ที่เป็นชนิดทาไปบนผิวหนัง ถือเป็นการดูแลภายนอก สารสำคัญจะซึมลงไปได้ลึกสุดก็เพียงแค่ชั้นหนังกำพร้าเท่านั้นคะ แต่ อาจจะซึมได้ถึงชั้นย่อยที่ลึกกว่าแตกต่างกันออกไป ขึ้นกับคุณภาพของส่วนผสมและเทคโนโลยีการผลิต เช่น เทคโนโลยีนาโน เทคโนโลยีไลไปโซม ก็อาจจะช่วยนำพาแอคทีฟลงไปถึงชั้นย่อยที่ลึกกว่า  แม้ ว่าในทางทฤษฎีหรือหลักวิชาการจะชี้ให้เห็นว่า เทคโนโลยีนาโน/เทคโนโลยีไลไปโซม  ช่วยย่อยขนาดอนุภาคแอคทีฟได้เล็กมากจนสามารถแทรกซึมเข้าไปถึงชั้นหนังแท้ได้ แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด  หากใครต้องการบำรุงผิวถึงชั้นหนังแท้จริงๆ ต้องฉีดเข้าไป หรือใช้ยารับประทานคะ (ปรึกษาแพทย์ หรือหาซื้ออาหารเสริมจากร้านขายยา)

 ฝ้าตื้น (epidermal type) ตอบสนองดีต่อครีม/เซรั่มรักษาฝ้าชนิดทาภายนอก

 ฝ้าเป็นความผิดปกติของการสร้างเม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนัง เห็นเป็นปื้นสีน้ำตาลหรือเทา เกิดที่แก้มหน้าผาก จมูกและคาง มักจะเป็นเท่า ๆ กันทั้ง 2 ข้าง ผิวหนังบริเวณที่เป็น จะเป็นปกติไม่มีการอักเสบ ไม่มีขุย มักพบในผู้หญิง จากลักษณะการกระจายของฝ้าแบ่งได้เป็น 3 แบบ คือ ฝ้า

  1. centrofacial pattern เป็นรอยฝ้าบริเวณแก้ม หน้าผาก หนวด จมูก และคาง พบประมาณร้อยละ 63

2. malar pattern เป็นรอยฝ้าที่แก้มและจมูก พบประมาณร้อยละ 21

 3. mandibular pattern เป็นรอยฝ้าบริเวณด้านข้างของคาง ขากรรไกรล่าง พบประมาณร้อยละ 16

 ลักษณะการกระจายของฝ้าทั้ง 3 แบบ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอายุผู้ป่วย ลักษณะผิว การกินยาคุมหรือการตั้งครรภ์

 

ปกติเซลล์สร้างเม็ดสีจะอยู่ในผิวชั้นหนัง กำพร้าเท่านั้น แต่ในตัวผิวชั้นหนังกำพร้าเอง ก็ยังมีชั้นย่อยอีกหลายชั้น เมลานินอาจจะอยู่ชั้นใดชั้นหนึ่งที่ลึก ตื้น ไม่เท่ากันในแต่ละคน อาจจะอยู่กระจุก กระจาย แตกต่างกันไป ทำให้ฝ้าแต่ละคนเข้มไม่เท่ากัน  เราเรียกฝ้าที่เกิดจากการเพิ่มต้วของเมลานินในชั้นหนังกำพร้านี้ว่า " ฝ้าตื้น (epidermal type) " ฝ้าชนิดนี้จะตอบสนองดีต่อ whitening หรือการทำไอออนโตผลักไวเทนนิ่งหรือตัวยาอื่นๆเข้าผิวหนัง

 ฝ้าอีกประเภทที่ควรทราบ  " ฝ้าลึก (dermal type) " เป็นฝ้าที่เกิดขึ้นจากการมีเซลล์เม็ดสีที่ชื่อ " melanophage" อยู่ในผิวชั้นหนังแท้ (ชั้น dermis) รอบๆหลอดเลือด ฝ้าชนิดนี้รักษายาก ไม่ตอบสนองต่อไวเทนนิ่งที่ทาภายนอก หรือแม้แต่การใช้หัตถการทางการแพทย์ก็มักจะได้ผลไม่ดีนัก  ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ใช้ครีมรักษาฝ้า ยังไงก็ไม่ได้ผล อาจจะเป็นไปได้ว่า ฝ้าที่เป็นอยู่ เป็นฝ้าลึก บางคนอาจจะเป็นผสมทั้งฝ้าลึกและฝ้าตื้น (mixed type) พอ ใช้ครีม เซรั่มรักษาฝ้า ก็จะดูตอบสนองดีในช่วงแรกๆ เพราะฝ้าตื้นได้รับการรักษา แต่ฝ้าลึกมันลึกเกินกว่าครีมทาภายนอกจะซึมเข้าไปถึง ก็พลอยทำให้หลายๆคนคิดว่าครีมที่ใช้มันไม่ work อีกต่อไป

 การแยกฝ้าตื้นและฝ้าลึก ไม่สามารถแยกได้ด้วยตาเปล่า ต้องใช้ wood's lamp ส่อง sหรือปรึกษาหมอผิวหนัง ถ้าใครเป็นฝ้าลึก หมออาจจะแนะนำให้ใช้ยารักษาฝ้าชนิดแรง เช่น กรดวิตามินเอ ไฮโดรควิโนน laser โดยอยู่ในความควบคุมของหมอ  ไม่ควรรักษาฝ้าลึกด้วยตนเอง อาจจะทำให้เป็นฝ้าถาวรหรือผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีขาว (ด่างขาว เหมือนคนเผือก) ถาวรได้คะ

  ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปแล้วแต่บุคคล

  เปิดเว็บร้านค้าออนไลน์ฟรี หรือชอปปิ้งเลือกซื้อสินค้าที่ต้องการอย่างสบายใจ  

Tag :  ครีมหน้าใส ครีมหน้าขาว ครีมหน้าใสเด้ง ครีมหน้าขาวใส สิวหน้าใส ครีมรักษาสิว ครีมกันแดด ครีมสาหร่าย ครีมโสม