วิธีการสั่งซื้อ ดังนี้

1. สั่งซื้อทาง Line ค่ะ    ID line : @moringaherb

หรือคลิกที่นี่ https://line.me/R/ti/p/%40moringaherb

2. สั่งซื้อผ่านระบบ  โดยคลิกที่ รูปรถเข็นใต้ภาพสินค้า

3. โทรสั่ง  063-6242352

  สวัสดีค่ะ ขอตอนรับสู่ร้านMoringa Herb และ ผลิตภัณฑ์คุณภาพจากใบมะรุม                     

       "Moringa herb" จำหน่ายมะรุมแคปซูล และ ชาใบมะรุม คุณภาพดี ราคาย่อมเยา สะอาด ผลิตจากใบมะรุมล้วนๆ ไม่ผสมแป้ง ไม่ปนก้าน ไม่มีสารเคมีหรือสารกันบูดเจือปน  เนื่องจากทางร้านจะไม่ผลิตStockเก็บไว้ จึงไม่จำเป็นต้องใส่สารกันบูด จะผลิตเมื่อมีการสั่งซื้อเข้ามาเท่านั้น  ดังนั้นท่านจะได้รับผลิตภัณฑ์มะรุมแคปซูล และ ชาใบมะรุม ที่ใหม่ทุกวันแน่นอนค่ะ     ทางร้านใส่ใจในการผลิตเป็นอย่างยิ่ง เพื่อต้องการให้สิ่งดีๆถึงมือท่าน  ดังนั้นขั้นตอนการผลิตเราจึงพิถีพิถันในทุกๆขั้นตอน  เริ่มตั้งแต่การเลือกสายพันธ์ของต้นมะรุม เราเลือกปลูกพันธ์Oleifera lam  หรือที่บ้านเราเรียกว่าพันธ์ข้าวเหนียว เป็นสายพันธ์ที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุดและเป็นพืชที่ไม่มีการแตกสายพันธ์จึงปลอดภัยในการรับประทาน และในส่วนการคัดเลือกใบมะรุมที่นำมาผลิตนั้นยิ่งสำคัญมาก เพราะในต้นมะรุม1ต้น ไม่ได้ใช้ได้ทุกใบนะค่ะ  ต้องคัดเลือกอย่างดี เราจะใช้ใบมะรุมที่ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป และเลือกใบเขียวที่สวยสมบูรณ์ ไม่เหลือง ไม่เป็นจุด จากต้นที่ทางร้านเราปลูกเอง ดูแลรักษาต้นมะรุมเอง จึงทำให้ได้ใบมะรุมที่อวบสมบรูณ์ เขียวสวย มีคุณภาพดี ทางร้านของเรามีต้นมะรุมมากพอ สำหรับการสั่งซื้อจำนวนมาก ไม่ได้รับใบมะรุมจากที่อื่นมาผลิต หรือรับมะรุมผงจากที่อื่นมาขายต่อแน่นอน ทางร้านจึงสามารถจำหน่ายได้ในราคาย่อมเยาเนื่องจากไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง "คุณภาพดีราคาถูก" สำหรับกรรมวิธีการผลิต เริ่มตั้งแต่การตากใบมะรุม ทางร้านเราตากได้แห้งสนิทจริงๆ จึงทำให้ปลอดเชื่อราแน่นอน และได้ตรวจสอบแล้วว่าแห้งสนิท100% ก่อนบรรจุ  และวิธีการตากเราจะในที่ร่มไม่โดนแสงแดดโดยตรง จึงทำให้ไม่สูญเสียคุณค่าสารอาหาร  วิตามินต่างๆยังอยู่ครบถ้วน โดยเฉพาะวิตามินซี ซึ่งถูกทำลายได้โดยง่ายด้วยแสงอาทิตย์และความร้อน  ส่วนกรรมวิธีการบรรจุขวด ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษเช่นกัน ในทุกขั้นตอน เช่นการบรรจุขวดทางร้านเลือกใช้ขวดทึบแสง เพื่อป้องกันการโดนแสงแดดซึ่งจะทำให้คุณค่าทางอาหารและวิตามินหายไป ใส่ซองกันชื้นทุกขวด  และปิดฝาขวดด้วยอนูมิเนียมฟรอยด์เพื่อป้องกันฝ่นและอากาศเข้า และซีนด้วยฟิลม์ใสอีกครั้ง เพื่อป้องกันการเสียหายจากการขนส่ง   ทางร้านมีประสบการณ์ในการผลิตมานาน  มีลูกค้าสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง สาเหตุที่ลูกค้ารับประทานอย่างต่อเนื่องนั้น   แน่นอนค่ะ เนื่องจากลูกค้ารับประทานแล้วเห็นผล  จึงมีการกลับมาชื้อใหม่ และมีการบอกต่อ ซึ่งทำให้ทางร้านได้รับข้อมูลข่าวสารจากลูกค้าที่รับประทานแล้วเห็นผล มาโดยตลอด  บางท่านมาเล่าถึงประสบการณ์ให้ฟ้งว่ารับประทานมะรุมแคปซูล และ ชาใบมะรุมแล้วร่างกายดีขึ้นอย่างไรบ้าง  ทำให้เป็นที่ภาคภูมิใจของทางร้านมากค่ะ เนื่องจากมีความต้องการให้ท่านสุขภาพแข็งแรงขึ้น ปราศจากโรคภัย และดูอ่อนกว่าวัย หน้าเด็กกันทุกคนนะค่ะ และขอบคุณทุกท่านที่ส่งข้อมูลและประสบการณ์ดีๆมาให้ค่ะ         

“ มะรุม “ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Moringa  Oleifera  Lam. วงศ์ Moringaceae    เป็นพืชกำเนิดแถบใต้เชิงเขาหิมาลัย เป็นไม้ยืนต้นขนาดหลางทีถูกปลูกไว้บริเวณบ้านไทยมาแต่โบราณ กินได้หลายส่วน ทั้งยอด ดอก และ ฝัก  แต่ใครฯก็นิยมกินผักมากกว่าส่วนอื่นๆ ต้นมะรุมพบได้ทุกภาคในประเทศไทย ทางอีสานเรียก ผัก”อีฮุม หรือ ผักอีฮึม  ภาคเหนือเรียก มะค้อมก้อน  ชาวกะเหรียงแถบกาญจนบุรีเรียก กาแน้งเดิง  ส่วนชาวฉานแถบแม่ฮ่องสอนเรียก ผักเนื้อไก่      ผู้เฒ่าผู้แก่นิยมกินมะรุมในช่วงต้นหนาวเพราะเป็นฤดูกาลของผักมะรุม หาได้ง่ายรสชาติอร่อยเพราะสดเต็มที่ มีขายตามตลาดในช่วงฟดูกาล คนที่ปลูกมะรุมไว้ในบ้านนั้นจึงจะมีโอกาศลิ้มรสยอดมะรุม  ใบอ่อน ช่อดอกและฝักอ่อน ช่อดอกนำไดองเก็บไว้กินกับน้ำพริก ยอดมะรุม ใบอ่อน ข่อดอก และฝักอ่อนนำมาลวกหรือต้มให้สุก จิ้งกันนำพริกปลาร้าน น้ำพริกแจ่วบอง กินแนมกับลาบก้อย แจ่ว ได้ทุกอย่าง หรือ่จะใช้ยอดอ่อน ช่อดอกทำแกงส้มหรือแกงอ่อมก็ได้ส่วนอื่นๆ จะใช้ใบมะรุมประกอบอาหารเช่นเดียวกับการใช้ปักขมผรั่ง หรือปรุงเป็นซอสข้นราดข้าวหรืออาหารป้งอื่นๆ นอกจากนี้ใชใบตากแห้งป่นไว้ได้นานโรยอาหารเช่นเดียวกับที่ภูมปัญญาอีสานจังหวัดสกลนครใช้ใบมะรุมแห้งปรุงเข้าเครื่อง “ผงนัว” กับสมุนไพรอื่นไว้แต่งรสอาหารมาแต่โบราณ ส่วนฝักอ่อนปรุงอาหารเหมือนถั่งแขก ในตำรายาพื้นบ้านใช้ใบมะรุมพอกแผลช่วยห้ามเลือด ทำให้นอนหลับ เป็นยาระบาย ขับปัสสาวะ และช่วยแก้ไข้ ใช้ส่วนดอกและผลเป็นยาบำรุง ขับปัสสาวะ และแก้ไข้ ใช้ส่วนเมล็ดบดพอกแก้ปวดตามข้อ และแก้ไข้ ในภาพรวมของข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการวิจัยในระดับเซลล์และสัตว์ทดลองพบว่า มะรุมมีฤทธิ์ที่น่าสนใจมากมาย เช่น ฤทธิ์ลดความดันโลหิต ต้านการเกิดเนื้องอก ต้านมะเร็ง ลดระดับคอเลสเตอรอล ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ป้องกันตับอักเสบ ต้านออกซิเดชัน ต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดระดับน้ำตาล และฤทธิ์ต้านการอักเสบ มีการศึกษาในคนเพียงชิ้นเดียว โดยมีเพียงรายงานเกี่ยวกับการใช้ยา Septillin ® ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากพืช 6 ชนิด ได้แก่ มะรุม บอระเพ็ด จิตรลดา มะขามป้อม ชะเอมเทศ Balsamodendron mukul (พืชอินเดีย) และเปลือกหอยสังข์ โดยพบว่า Septillin ® ให้ผลดีทางคลินิกในเด็กซึ่งมีปัญหาเกี่ยวกับการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบน และการติดเชื้อที่ผิวหนัง  -ประเทศญี่ปุ่นผลิตชาใบมะรุมออกจำหน่าย ระบุว่าใช้แก้ปัญหาโรคปากนกกระจอก โรคหอบหืด,อาการปวดหู และปวดศรีษะ  ช่วยบำรุงสายตา , รักษาโรคทางเดินอาหาร และระบบขับถ่าย - ประเทศอินเดีย หญิงตั้งครรภ์จะกินใบมะรุมเพื่อเสริมธาตุเหล็ก - ประเทศฟิลิฟฟินส์และบอสวานา หญิงที่เลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาจะกินแกงจืดมะรุมเพื่อเพิ่มแคลเซียมในน้ำนม                                                                                         

คุณค่าทางอาหารของมะรุม    มะรุมเป็นพื้ชมหัศจรรย์ มีคุณค่าทางโภชนาการสูงสุด กล่าวถึงในคัมภีร์ใบเยิ้ลว่าเป็นพืชที่รักษาทุกโรค ใบมะรุมมีโปรีตีนสูงกว่านมสด 2 เท่า  การกินใบมะรุมตามชนบทของประเทศกำลังพัฒนาและประเทศโลกที่ 3 เป็นการเพิ่มโปรตีนคุณพาพสูงราคาถูกให้กับอาหารพื้นบ้าน นอกจากนี้มะรุมมีธาตุอาหารปริมาณสูงเป็นพิเศษที่ช่วยป้องกันโรค ดังนี้                

วิตามินเอ : ช่วยบำรุงสายตา มีวิตามินมากกว่าแครอต 3 เท่า                

วิตามินซี  : ช่วยป้องกันหวัด  มีวิตามินมากกว่าส้ม 7 เท่า                

แคลเซียม : ช่วยบำรุงกระดูก  มีแคลเซียมมากกว่านม 3 เท่า                

โพแทสเซียม : บำรุงสมองและระบบประสาท มีวิตาวิน 3 เท่าของกล้วย                

ใยอาหารและพลังงาน :  ไม่สูงมากนัก เหมาะกับผู้สูงอายุและผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก                

น้ำมันเม็ดมะรุม : มีองค์ประกอบคล้ายน้ำมันมะกอกดีต่อสุขภาพและบำรุงผิวพรรณ  

ประโยชน์แยกตามส่วนต่างๆของต้นมะรุม 

ใบ  : ใบสดใช้กินเป็นอาหาร ใบแห้งทำเป็นผงเก็บไว้ได้นาน มีคุณค่าทางอาหารสูง ใช้ถอนพิษไข้ มีวิตามินCสูง แก้เลือดออกตามไรฟัน แก้อักเสบ แก้แผล ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ขับปัสสาวะ เป็นยาระบายอ่อนๆ  มีแคลเซี่ยม แร่ธาตุที่มีประโยชน์และสารต้านอนุมูลอิสระ (Rutin, Quercetin), มีกรดช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย (Lutein และ Caffeoylquinic acids) ช่วยป้องกันมะเร็ง ช่วยให้การรักษาโรคมะเร็งทำได้ดีขึ้น ลดความดันโลหิต (ผู้เป็นโรคเลือด G6PD ไม่ควรรับประทาน)

ดอก :  ใช้แก้ไข้หัวลม เป็นยาบำรุง ขับปัสสาวะ ขับน้ำตา ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันมะเร็ง,ใช้ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แก้หวัด Helminths ป้องกันมะเร็ง

ฝัก  :  แก้ไข้ ป้องกันมะเร็ง ลดความดันโลหิต ,ให้พลังงานและอุดมด้วยสารอาหาร  ฝักมะรุม 100 gm ให้พลังงาน 32 กิโลแคลอรี่ ประกอบด้วย เส้นใย 1.2 gm แคลเซี่ยม 9 mg ฟอสฟอรัส 26 mg เหล็ก 1.5 mg วิตามินA 532 IU วิตามินB1 0.05 mg ไนอาซิน 0.6 mg วิตามินC 262 mg

เมล็ด :ใช้แก้ไอได้ดี,น้ำมันที่ได้จากการคั้นเมล็ดสด ใช้เป็นน้ำมันปรุงอาหารคั้นได้น้ำมันคุณภาพสูง ใช้เป็นอาหาร ถนอมอาหารและถนอมผิว กากที่เหลือใช้แทนสารส้มในการทำให้น้ำตกตะกอน ใสขึ้น นำมาใช้ได้ ยอดอ่อน : ใช้ถอนพิษไข้ ราก : แก้อาการบวม บำรุงไฟธาตุ รักษาโรคหัวใจ ไขข้อ

เปลือกลำต้น : ร้อน ขับลมในไส้ คุมธาติอ่อนๆ แก้ลมอัมพาต ป้องกันมะเร็ง คุมกำเนิด เคี้ยวกินช่วยย่อยอาหาร ยาง : ฆ่าเชื้อไทฟอยด์ ซิฟิลิส (syphilis) แก้ปวดฟัน  

ประโยชน์ของมะรุม

1.ใช้รักษาโรคขาดอาหารในเด็กแรกเกิดถึง 10 ขวบ และลดสถิติการเสียชีวิต พิการ และตาบอดได้เป็นอย่างดี

2.ใช้รักษาผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานให้อยู่ในภาวะควบคุมได้

3.รักษาโรคความดันโลหิตสูง

4.ช่วยเพิ่มและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ทานผลิตผลจากมะรุมในระหว่างตั้งครรภ์ เด็กที่เกิดมาจะไม่ติดเชื้อHIV นอกจากนี้ถ้ารับประทานอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้งยังช่วยให้คนทั่วๆไปสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง

5.ช่วยรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ให้อยู่ในภาวะควบคุมได้ การรักษาโรคเอดส์ที่ประสพผลสำเร็จในกลุ่มประเทศแอฟริกา

6.ถ้ารับประทานสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรคมะเร็ง แต่ถ้าหากเป็นก็จะช่วยให้การรักษาพยาบาลง่ายขึ้น ในบางกรณีสามารถหยุดการเจริญเติบโตของโรคร้ายได้ ถ้าใช้ควบคู่ไปกับยาแพทย์แผนปัจจุบัน หากผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งได้รับการรักษาด้วยรังสี การดื่มน้ำมะรุมจะช่วยให้การแพ้รังสีฟื้นตัวเร็วขึ้นและมีร่างกายที่แข็งแรง

7.ช่วยรักษาโรคไขข้ออักเสบ โรคเก๊าท์ โรคกระดูกอักเสบ โรคมะเร็งในกระดูก โรครูมาติซั่ม

8.รักษาโรคตาเกือบทุกชนิด เช่น โรคตามืดตามัวเพราะขาดสารอาหารที่จำเป็น โรคตาต้อ เป็นต้น หากรับประทานสม่ำเสมอ จะทำให้ตามีสุขภาพที่สมบูรณ์

9.รักษาโรคลำไส้อักเสบ โรคเกี่ยวกับท้อง ท้องเสีย ท้องผูก โรคพยาธิในลำไส้

10.รักษาปอดให้แข็งแรง รักษาโรคทางเดินของลมหายใจ และโรคปอดอักเสบ

11.เป็นยาปฏิชีวนะ