.
 สถานะของเว็บ
วันที่สร้างเว็บ :18/9/2012
ปรับปรุงเว็บครั้งล่าสุดเมื่อ :4/4/2014
จำนวนคนเข้าชมเว็บนี้ :499395
การดูแลเล็บมือเล็บเท้า
บทความ ณ. วันที่ : 16/10/2012        จำนวนคนเข้าชมเว็บ : 699 ครั้ง   

การดูแลเล็บมือเล็บเท้า

สาวๆ ในยุคนี้นอกจากผิวสวย หน้าใส รูปร่างผอมเพรียวอย่างมีสุขภาพดีแล้ว อวัยวะในร่างกายอีกส่วนที่มีความสำคัญของคุณสาวในยุคนี้สมัยนี้ก็คือ “เล็บ” นอกจากนั้นแล้ว สำหรับคุณสาวที่ชอบเพ้นท์ หรือทำสี การดูแลรักษาเล็บให้ยาว สวย และอยู่กับเรานานเป็นเรื่องที่เราปรารถนาค่ะ แต่เล็บมิใช่มีความสำคัญเฉพาะเรื่องของความสวยความงามเท่านั้น

แท้จริงแล้ว เล็บยังแฝงความลับเกี่ยวกับสุขภาพเอาไว้ด้วย เช่น เล็บที่มีลักษณะผิดปกติ แสดงว่าเจ้าของเล็บมีการติดเชื้อค่ะ หรือมีความผิดปกติของระบบอวัยวะที่สำคัญ เช่น หัวใจ ปอด ลักษณะผิดปกติได้แก่ เล็บ และปลายนิ้วที่กลมจนมีลักษณะคล้ายกระบอง เล็บที่มีลักษณะผิดปกติยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้อีกนะค่ะ เช่น จากการอักเสบเรื้อรังของเนื้อเยื่อข้างเล็บ จากโรคสะเก็ดเงิน หรือเป็นผลจากอุบัติเหตุที่โดนเนื้อใต้เล็บ หรือเป็นการเสื่อมสภาพจากความชราก็ได้ค่ะ

และวันนี้เราก็มี 10 วิธีการดูแลมือ เท้า หลังจากที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน และเล็บ ที่ไม่ค่อยได้หายใจเมื่อคุณแต่งแต้มสีสันลงไป

 

1. เราต้องทำความสะอาดมือ เท้า และเล็บ เสียก่อน โดยการใช้แปรงขนนุ่ม กับสบู่อ่อน ๆ ถูเบา ๆ บริเวณมือ เท้า และเล็บ อย่าลืมที่จะถูใต้เล็บด้วยละ เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณที่มีเชื้อโรคเข้าไปสะสมอยู่มากที่สุด หลังจากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำอุ่น

 

2. ควรตัดเล็บมือเป็นประจำ สัปดาห์ละครั้ง ส่วนเล็บเท้า 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง ไม่ควรตัดเล็บจนชิดบริเวณผิวหนังส่วนปลายนิ้วเกินไปเพราะนอกจากจะเสี่ยงต่อการเป็นแผลแล้วยังทำให้พื้นที่หน้าเล็บสั้นลงได้ และถ้าตัดชิดขอบลึกลงไปเรื่อยๆ จะดูเหมือนเล็บของคนที่ชอบกัดเล็บซึ่งไม่สวยงาม สำหรับเล็บเท้าควรตัดในแนวตรงเป็นทรงเหลี่ยม ไม่ควรตัดเล็บลงซอกข้างเล็บมากเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดเล็บขบได้

 

3. รับประทานที่มีประโยชน์ตามหลักโภชนาการ เพราะเล็บก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่ต้องการสารอาหารเพื่อการเจริญเติบโตเหมือนกัน ส่วนสารอาหารที่เล็บต้องการ เช่น โปรตีน วิตามินเอ ซี และอี รวมถึงแร่ธาตุสังกะสีที่มีอยู่ในอาหารทะเลและเมล็ดธัญพืช

 

4. นอกจากสารอาหารแล้ว การทาโลชั่นบำรุงผิวเป็นประจำทุกวัน ยังช่วยป้องกันผิวมือไม่ให้หยาบกระด้าง โดยเฉพาะหลังจากที่มือต้องสัมผัสกับสารเคมีต่าง ๆ เช่น ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน อีกวิธีหนึ่งที่เป็นการป้องกันก็คือ ในช่วงที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีต่าง ๆ ก็ให้สวมถุงมือทุกครั้ง

 

5. นวดนิ้วมือและเท้าด้วยครีมบำรุงหรือน้ำมันบำรุงผิว ประมาณ 3-5 นาที เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณมือและเท้า ควรนวดบริเวณปลายนิ้วและเล็บด้วยเพื่อกระตุ้นการทำงานของต่อมสร้างเล็บที่อยู่บริเวณโคนเล็บ ถ้าไม่สะดวกระหว่างวันสามารถทำได้ในช่วงก่อนเข้านอนแล้วสวมถุงมือผ้าและถุงเท้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการซึมซาบสู่ใต้ผิวของน้ำมันหรือครีมบำรุง หรือจะใช้สครับสำหรับนวดเท้า เพื่อการไหลเวียนโลหิตที่ดีขึ้น ซึ่งปัจจุบัน สครับสำหรับมือและเท้าก็หาซื้อได้ง่าย และสามารถทำได้เองที่บ้าน เสียเวลาไม่นาน แต่รับรองว่าสบายผิวแน่นอน

 

6. เนื่องจากธรรมชาติสร้างเล็บให้ออกมาในรูปแบบของแผ่นโปรตีนชนิดแข็ง และให้ทำหน้าที่ปกป้องปลายประสาทที่มีอยู่มากบริเวณปลายสุดของร่างกายไม่ให้ได้รับความกระทบกระเทือน อีกทั้งยังทำหน้าที่ช่วยในการหยิบจับ และแกะเกา ส่วนหน้าที่งัดแงะของแข็ง หรือว่าใช้เป็นไขควงในการหมุนนั่นหมุนนี่ ผิดวัตถุประสงค์นะคะ อาจจะทำให้เล็บฉีกได้

 

7. สำหรับสาว ๆ ที่ชอบทาเล็บเป็นชีวิตจิตใจ เรียกว่าไม่ยอมให้เล็บได้หายใจเลยแล้วละก็ ฟังทางนี้ ควรทาน้ำยารองพื้นเล็บก่อนทาสี เพื่อป้องกันการเกิดสีที่ไม่พึงประสงค์หลังจากการทาเล็บได้ระยะหนึ่ง และควรทาน้ำยาเคลือบเงาเล็บเพื่อความวาวและติดทนนาน แต่ไม่ควรทาเล็บสีเข้มติดต่อกันนานๆ ควรสลับสีอ่อนบ้าง และควรหยุดพักการทาเล็บเมื่อเห็นว่าสภาพเล็บดูแห้งหรือเกิดสีผิดปกติ

 

8. ในการเลือกซื้อน้ำยาทาเล็บ ควรคำนึงถึงการเลือกสีให้เหมาะสม ทั้งกับสีผิว โอกาสที่ใช้ สีเสื้อผ้า เครื่องสำอางและบุคลิกของตัวเอง

 

9. ควรศึกษาอ่านฉลากของผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ เช่น วันหมดอายุ หรือสังเกตสภาพของผลิตภัณฑ์ว่ายังมีคุณภาพดีหรือไม่ โดยทั่วไปอายุของเครื่องสำอางเล็บอยู่ที่ประมาณ 3 ปี หรือดูจากลักษณะการแยกตัวของสีหากหมดอายุแล้วไม่ควรใช้เด็ดขาด

 

10. ในส่วนของเท้าก็ต้องการการดูแลเช่นกัน การเลือกรองเท้าให้เหมาะกับรูปร่างเท้าของเราก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยรักษาเท้าให้มีสุขภาพดี ซึ่งในการเลือกซื้อรองเท้านั้น เราควรเลือกรองเท้าที่สวมใส่พอดี ไม่คับ หรือหลวมจนเกินไป เพราะการเสียดสีในขณะที่เดินนานๆ จะทำให้ผิวเท้าเกิดหนังที่แข็งด้าน และการใส่รองเท้าที่คับเกินไปบริเวณปลายเท้าอาจเป็นสาเหตุให้เกิดเล็บขบ เวลาที่เหมาะสมในการเลือกซื้อรองเท้าคือช่วงกลางวันที่เท้าได้เดินจนขยายตัวแล้ว และหลังจากที่ใส่รองเท้าส้นสูงมาตลอดทั้งวัน หลังเลิกงาน ลองแช่เท้าในน้ำอุ่นสัก 10-15 นาที จะช่วยผ่อนคลายอาการเมื่อล้าที่เท้าได้ค่ะ

 

และนี่ก็คือ 10 วิธีการดูแลมือ เท้า และเล็บของคุณ ให้ดูมีสุขภาพดีอยู่ตลอดเวลา…ไปทำกันดูนะค่ะ 






เว็บไซต์นี้ เป็นเว็บร้านค้าสมาชิกของ SABUYJAISHOP ผู้ให้บริการทางการตลาดออนไลน์ สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำเสนอสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ร้านค้า หรือสินค้าในร้าน
©2008-2010 SABUYJAISHOP All Rights Reserved