รับมือวันกินแหลก สติแตก สติหลุด
สาวๆ ที่ลดความอ้วนจนเป็นชีวิตประจำวันอย่างเราๆ ต้องมีบ้างล่ะวันไหนที่ฮอร์โมนฟุ้งเฟ้อ ความอยากเข้าครอบงำ ความหิวถาโถมมาอยากไหนไม่รู้เห็นไอ้นั่น ไอ้นี่ก็อยากกินกันไปหมด หิวแบบจัดเต็มทุกมื้อตลอดวัน ยิ่งโดยเฉพ
าะช่วงที่ Event เต็มแบบช่วงนี้ สาวๆ ก็มีข้ออ้างให้การกินได้เสมอๆ
แล้วเราจะทำอย่างไรกับสถานการณ์ที่จะต้องกิน กิน กิน เป็นหลักแบบนี้ บางคนใช่ว่าอยากกิน แต่ต้องอยู่ในงานที่ต้องเข้าสังคม การกินร่วมกันก็เป็นกิจกรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งช่วงสิ้นปีแบบนี้ เดี๋ยวงานแต่งงาน เดี๋ยวงานเลี้ยงบริษัท งานปีใหม่ กินเลี้ยงกันในหมู่ญาติ กลุ่มเพื่อน ฯลฯ ล้วนแล้วแต่หลีกเลี่ยงการกินได้ แถมการกินแบบนี้มีข้อกำหนดใดๆ เลย ทั้งเรื่องเงิน ทั้งเรื่องเวลา ทำเอาสาวๆ หลายคนสติแตก กินไม่หยุด ฉุดไม่อยู่
กินได้ กินดี ต้องมีสติ
สติมาปัญญาเกิด เรียกว่าใช้ได้กับทุกเรื่องค่ะ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องการกิน เพราะการกินอย่างมีสติจะทำให้เราไม่ต้องมาปวดหัวกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว หรืออาการท้องอืด ท้องเฟ้อ โรคกระเพาะที่จะมาถามหากันเปล่าๆ เพราะฉะนั้นเพื่อให้สาวๆได้เตือนใจตัวเองได้ เรามีข้อคิดดีๆ 10 ข้อ ที่จะเรียกสติสาวๆ ให้กลับมาในวันที่ต้องกินแหลก จะได้ไม่ต้องสติแตกกันไงล่ะคะ
1. “ปลุกสติ” ด้วยการโต้ตอบกับตัวเองอยู่เสมอ ไม่ให้รู้สึกเหมือนอยู่อย่างเดียวดาย สติมาปัญญาเกิดก็จริง แต่ก่อนอื่นต้องปลุกสติที่มีอยู่เสียก่อน การเตือนตัวองบ่อยๆ ช่วยได้ค่ะ เป็นการเรียกสติให้พร้อมใช้งานได้ เมื่อสติตื่นแล้วเราก็ต้องตื่นตัวตามด้วยนะคะ
2. กินดีมีคุณค่า คือให้คิดถึงคุณค่าทางอาหารและพลังงานที่จะได้จากสิ่งที่จะกินเสมอ บางอย่างพลังงานน้อยก็จริง แต่คุณค่าทางอาหารก็แทบไม่มี อย่างส้มตำทั้งหลาย คุณค่าทางอาหารก็น้อยนิดตามไปด้วย
3. “หิวหรืออยาก” ก่อนจะกินอะไรที่ไม่อยู่ในแผน ให้ถามตัวเองว่าจะกินเพราะอะไร หิวหรืออยาก การถามตัวเองแบบนี้เป็นการเรียกสติให้กลับมาทำงานอีกครั้ง เพราะความอยากนั้นทำให้เราซื้อๆ มากิน แต่ก็กินไปได้ไม่เท่าไหร่ เพราะร่างกายไม่ได้หิว ความน่ากลัวจึงอยู่ที่ “การรับผิดชอบ” กินสิ่งที่อยากให้หมดนั่นแหละค่ะ
4. กินสวยๆ ช่วยได้ ถ้าจำเป็นต้องกินเพื่อสังคม ให้เลือกกินให้ดี กินคำเล็ก ๆ ช้า ๆ และน้อย ๆ เข้าไว้ เรียกว่ากินสวยๆ พอขำๆ ก็พอค่ะ จะไม่ทานเลยก็จะเสียมารยาท แต่อย่าลืมไปว่านานเยอะเกินก็ไม่ได้แสดงว่ามีมารยาทดีแต่อย่างใดนะคะ เอาให้พอดีก็พอค่ะ ยิ่งในงานแบบนี้ มื้อเย็นทั้งนั้น เพราะฉะนั้นขอให้ท่องไว้ ว่า “เบาๆ” ค่ะ
5. น้ำเปล่าเท่านั้น ขอให้แตะแอลกอฮอล์ให้น้อยที่สุดเลยค่ะ ส่วนน้ำอัดลมนั้นเลิกไปเลย บอกตัวเองว่าถ้าไม่ใช่น้ำผลไม้คั้นสดไม่เติมน้ำตาล ขอดื่มน้ำเปล่าแทนเท่านั้น เพราะนอกจากอาหารจะทำลายตัวเลขบนหน้าจอเครื่องช่างน้ำหนักแล้ว ยังทำร้ายร่างกายเราด้วยพลังงานหลายร้อยกิโลแคลอรี่กันเลยทีเดียว
6. ลดความอ้วนไม่ใช่การอด อย่าปล่อยให้ตัวเองอดเด็ดขาด เพราะการอดจะนำมาซึ่งอันตรายจากความโหย ซึ่งความโหยก็ไม่ต่างอะไรจากพายุ (การกิน) เลยค่ะ ทำร้ายร่างกายเราได้แบบสุดๆ
7. เลือกซื้อของเข้าตู้เย็นอย่างมีสติ ไม่อย่างนั้นอาจเกิดการเปิดตู้เย็นกินอย่างไร้สติ เช่น เลือกซื้อผลไม้สดดีกว่าขนมขบเคี้ยวที่ทำจากแป้งและน้ำตาล หากอยากขนมจริงๆ เลือกขนมที่มีไขมัน แป้ง หรือน้ำตาล เป็นองค์ประกอบแค่สองอย่างเช่น ขนมที่มีแป้งและน้ำตาล แต่ไม่ได้ทอด ขนมทอดมีแป้งและน้ำมันแต่ไม่หวาน เป็นต้น อ้อ … อย่าลืมว่าเกลือนี่ก็ตัวร้ายไม่แพ้กันเลยนะคะ
8. หยุดความอยาก ด้วยการจิบน้ำอุ่น ๆ หรือออกแรงออกกำลังกาย ขยับเนื้อขยับตัวทำกิจกรรมต่างๆ อยู่เสมอ อย่าปล่อยตัวนั่งจ่อม ใจลอย การที่เราอยู่ว่างนี่ล่ะค่ะ จะทำให้หัวเราคิดเรื่องกินขึ้นมาอีก ปากว่างก็อยากขบเคี้ยว ถ้าเผลอมีกินอีกแน่ค่ะ
9. สมาธิก็ช่วยได้ การทำสมาธิโดยหายใจเข้าลึกๆ จนท้องป่อง หายใจออกยาวๆ จนท้องแฟ่บ ให้ได้สัก 30 รอบ จะพบว่าสมองแจ่มใสขึ้น ต่อด้วยการออกกำลังกายเบาๆ สมองเราจะเลิกคิดเรื่องกิน และรับประทานเท่าที่อิ่มแบบมีสติค่ะ
10. ให้รางวัลตัวเองบ้าง ให้รางวัลที่ทำได้ตามแผนไม่ใช่เรื่องผิดค่ะ อาจเป็นของกินก็ได้ แต่ต้องกินอย่างมีสติ อย่าให้รางวัลกลายเป็นการทำร้ายตัวเองแบบจัดหนักนะคะสาวๆ
เอาล่ะค่ะ 10 ข้อคิดที่จะทำให้เรากินได้ กินดี แบบมีสติ สำคัญที่ตัวคุณเองแหละค่ะสาวๆ ไม่มีใครมาบังคับเราได้ เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับวินัยในการกินล้วนๆ ล่ะค่ะ ที่สำคัญหากเรามีสติในการใช้ชีวิต ก็ไม่ต้องห่วงล่ะค่ะว่าวันสติแตกจะมาเมื่อไหร่ เพราะอย่างไรมันก็มาไม่ถึงล่ะค่ะ