ตัดสินใจไม่ถูก เลือกซื้อเครื่องขีดสีรถแบบไหนดี ? คลิ๊กชมคลิปด้านล่าง เครื่องขัดสีรถยนต์มีกี่ระบบ เครื่องขัดสีรถแบบไร้สาย กับแบบมีสาย เลือกแบบไหนดี? เราควรคำนึงถึงเรื่องอะไรบ้าง
วิธีการเลือกซื้อเครื่องขัดสีรถยนต์
มีเพื่อนเพื่อนถามเข้าหลายท่าน หากจะซื้อเครื่องขัดสีรถยนต์ ต้องเลือกยังไงแบบไหนดี? ทางร้าน Osaka99 จะมาแนะนำเครื่องขัดสีรถยนต์ที่ทางร้านใช้บ่อยในงานคาร์ดีเทลิ่งมีรุ่นอะไรกันบ้างเดี๋ยวเราไปติดตามชมกันในคลิปนี้เลย
ก่อนไปดูว่าเราควรจะเลือกซื้อเครื่องขัดเราจะต้องรู้ก่อนว่าเครื่องขัดมีกี่แบบ เรามาทำความรู้จักเครื่องขัดสีรถในปัจจุบันแยกออกมามี 3 ระบบดังนี้
เครื่องขัดสีรถแบ่งออกเป็น 3 ระบบ
1. เครื่องขัดระบบ โรตารี (Rotary Polisher)
สำหรับระบบโรตารีเป็นระบบที่มีมาก่อนซึ่งในสมัยก่อนเราจะเห็นได้ตามอู่สีเครื่องตัวใหญ่ๆลักษณะการทำงานของเครื่องขัดระบบโรตารีตัวแป้นขัดขัดจะหมุนอยู่จุดเดียวลักษณะคล้ายสว่านทำให้เวลาขัดก็เกิดความร้อนสะสมบนสีรถได้เร็วสามารถทำงานได้ครอบคลุมตั้งแต่งานเคลือบเงาไปจนถึงงานขัดลบรอยกระดาษทรายจึงเป็นที่นิยมในอู่สีอย่างไรก็ตามระบบโรตารี่ผู้ขัดควรมีทักษะในการขัดรวมถึงหากไม่ชำนาญก็อาจจะเกิดอันตรายได้รวมถึงการขัดจบงานขั้นสุดท้ายให้ไม่ทิ้งรอยด้วยเครื่องระบบโรตารีต้องใช้ทักษะในการขัดสูงจึงเป็นที่มาของการพัฒนาเครื่องขัดระบบใหม่ขึ้นมาสำหรับงานคาร์แคร์หรือคาร์ดีเทลลิ่งซึ่งเป็นระบบที่เรียกว่าระบบดีเอ
2. เครื่องขัดระบบ DA (Dual Action)
สำหรับระบบที่สองคือระบบดีเอ DA เป็นระบบที่พัฒนามาเพื่อใช้ในงานคาร์แคร์คาร์ดีเทลลิ่งซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมาก ลักษณะการทำงานของระบบดีเอ DA Dual Action หรือที่เรียกกันว่าข้อเหวี่ยง
การทำงานตัวแป้นขัดจะหมุนและส่ายไปมาด้วยขณะทำงานทำให้เกิดการกระจายความร้อนขณะขัดทำให้การขัดง่ายและปลอดภัยมากขึ้นรวมถึงการเก็บงานขั้นตอนสุดท้ายจะไม่สร้างรอย Hologram ทำให้ขัดจบงานได้สวยไร้ริ้วรอย จึงทำให้ระบบ DA เป็นที่นิยมในงานคาร์ detail ลิ่งและคาร์แคร์นั้นเอง
สำหรับเครื่องขัด DA เราก็จะได้ยินคำว่าจุดหมุนเหวี่ยงหรือว่า Orbit ซึ่งเครื่องขัดในแต่ละรุ่นก็จะมีจุดหมุนเวียนที่แตกต่างกันออกไปตั้งแต่ 9 มิล 12 มิล 15 มิล 21 มิล เครื่องขัดระบบดีเอที่ดีจะต้องคิดคำนวนบาลานซ์ของตัวแป้นขัดกับการเหวี่ยงให้ได้บาลานซ์จึงจะทำให้เครื่องขัด เวลาขัดแล้วขัดสบายเครื่องเดินนิ่งไม่สะท้านหรือปวดมือ ในทางกลับกันเครื่องขัด DA ที่ทำบาลานซ์มาไม่ดีเครื่องก็จะสั่นแรงมากถึงขั้นเวลาขัดจะเจ็บมือเลยอยู่ที่คุณภาพเครื่องขัดด้วย
เพราะฉะนั้นถ้าเราซื้อเครื่องขัดระบบ DA ก็ให้คำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ด้วย ซึ่งเครื่องขัดก็มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ใหม่อย่าง Shine Mate ที่มีระบบ CNC Component ช่วยให้เครื่องขัดมีบาลานซ์ที่ดีทำให้เครื่องขัด ขัดได้อย่างนุ่มนวลสะดวกสบาย ลดความเมื่อยล้าได้เป็นอย่างดี
เครื่องขัดระบบดีเอยังสามารถแยกย่อยลงไปอีกได้เป็นระบบ Force Dual Action กับ Random Orbit Free Spin
2.1 Force Dual action การทำงานจะหมุนคล้าบระบบ Da แต่เมื่อออกแรงกดเครื่องจะหมุนตลอด ไม่มีการทอนแรงเหมือนโรตา รีทำให้การใช้ยังคงมีโอกาสเสียงเกิดสีหลุดสีใหม่จึงทำให้ไม่เป็นที่นิยม
2.2 Free Spin Dual Action ระบบนี้จะมีการผ่อนแรงไปตามการขัด ทำให้มีความปลอดภัยมากที่สุดระบบ Random Orbit Free Spin จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน
3. เครื่องขัดระบบ Hybrid สามารถเปลี่ยนหัวขัดได้ 2 ระบบ
เครื่องขัดสีรถมีการพัฒนาระบบมาให้สามารถเปลี่ยนหัวขัดได้ 2 ระบบทั้งระบบ DA และระบบ RO อย่างเช่นเครื่องขัดสีรถไร้สายของ Shine Mate รุ่น EB210 สามารถเปลี่ยนระบบหัวขัดได้หลากหลาย
หลังจากที่เรารู้จักระบบเครื่องขัดสีเรามาดูว่าเราควรจะเลือกซื้อเครื่องขัดอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งานแล้วก็เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด
เครื่องขัดสีรถในปัจจุบันก็มีหลายรุ่นหลายราคาตั้งแต่ 1000 กว่าบาทไปจนถึง 10,000 กว่าบาทเราจะมีวืธีเลือกซื้ออย่างไรบ้าง
ปัจจัยในการเลือกซื้อเครื่องขัดสีรถ
1. ดูวัตถุประสงค์ในการใช้งาน
1.1 ใช้งานลงแวกซ์ขัดงานเบา
หากต้องการนำมาทุ่นแรงในการเคลือบเงาลงแว็กซ์ขัดคราบไคลลบรอยบางบางเราสามารถซื้อเป็นเครื่องขัดรุ่นกำลังมอเตอร์เล็กได้อย่างเช่นเครื่องขัด Mikawa Gen3 หรือเครื่องขัดไร้สายรุ่น 3D XS จะเป็นเครื่องขัดที่มีขนาดเล็กน้ำหนักเบาเสียงเงียบใช้งานได้สะดวกสบายมากที่สุดราคาไม่แรงจะอยู่ในช่วย 1-2 กว่าพันบาท
ถ้าเป็นรุ่น 3D XS ก็จะสามารถปรับรอบได้หกระดับด้วยก็จะครอบคลุมตั้งแต่งานเคลือบเงาไปจนถึงขัดครายไคล ลบรอยบางๆได้ตัว 3D XS เป็นรุ่นที่ขายดี เนื่องจากลูกค้านำไปลงแว็กซ์ช่วยทุ่นแรงได้อย่างมากทำให้ลดเวลาในการทำงานเคลือบสีรถได้ง่ายขึ้นปลอดภัยมากขึ้นถือว่าเป็นตัวหนึ่งที่คุ้มค่ากับการลงทุน สำหรับการนำเอาขัดงานเบาดูแลรถแบบง่ายๆรวดเร็วไปให้สีสวยใหม่อยู่เสมอ
1.2 ใช้ขัดลบรอย ใช้ในคาร์แคร์
ในกรณีที่ลูกค้าต้องการซื้อเครื่องขัดเพื่อมาใช้ในการขัดลบรอยขนแมวหรือมีงานขัดลบรอยหนัก
หรือที่บ้านมีรถหลายคันมีทั้งสภาพสีรถใหม่ รถเก่าที่ต้องดูแลหรือต้องการซื้อเพื่อไปประกอบอาชีพในงานคาร์แคร์ ก็แนะนำซื้อเป็นเครื่องขัดระบบดีเอที่เป็นเครื่องกำลังมอเตอร์สูง ซึ่งเป็นระบบที่ทำงานง่านปลอดภัยผู้ที่มีประสบการณ์คัดมาก่อนก็สามารถคัดได้รวมถึงทำงานได้หลากหลายครอบคลุมงานต่างๆได้มากยิ่งขึ้นด้วยกำลังมอเตอร์ที่สูงขึ้น
ดังนั้นถ้าเราต้องการทำงานลบรอยขนแมวด้วยก็แนะนำซื้อเป็นเครื่องขัดสีรถระบบ DA กำลังมอเตอร์สูง
ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลายรุ่นหลายราคาตั้งแต่ 3 -4 พันไปจนถึงหมื่นกว่าบาทซึ่งก็ราคาที่สูงชึ้นก็จะต่างกันที่กำลังมอเตอร์และนวัตกรรมของเครื่องชัดสีรถที่ทำให้เราทำงานได้เร็วมากยิ่งขึ้นทำบาลานซ์มาได้ดียิ่งข้ึนอย่างเครื่องที่เป็นนิยมในคาร์แคร์เลยอย่างของ Shine Mate รุ่น EX620 ตัวนี้กำลังมอเตอร์สูงถึง 1200 วัตต์มีเทคโนโลยี CNC Component ทำให้เวลาขัดขัดสบายไม่สะท้านมือทำงานได้รวดเร็วขึ้น 2 เท่าระบบดีเอทำให้ทำงานง่ายปลอดภัยคาร์แคร์หลายๆที่ก็อยากได้เครื่องที่ทำงานได้ไวแต่ใช้ง่ายปลอดภัยตัวนี้จึงตอบโจทย์ได้มากที่สุด
1.3 ใช้ในงานอู่สีลบรอยกระดาษทราย
แต่หากลูกค้าต้องการนำเครื่องขัดไปใช้ในงานอู่สีก็จะแนะนำเป็นเครื่องขัดระบบโรตารี่ที่เป็นมอเตอร์กำลังสูงเนื่องจากมีการใช้งานขัดลบรอยกระดาษทรายหากกำลังรอบเครื่องไม่ถึงก็จะไม่สามารถทำงานเหล่านี้ได้นั่นเอง
รวมถึงการทำงานในที่แคบหรือชิ้นงานขนาดเล็กเครื่องขัดโรตารี่จะสามารถเปลี่ยนหัวขัดได้หลากหลายหลายรูปแบบมากกว่าระบบดีเอไม่ว่าจะเป็นหัวขัดขนาดเล็กระดับมิลลิเมตรหัวขัดปากการวมถึงสามารถใส่แกนข้อต่อเพื่อเข้าไปขัดในซอกมุมเล็กๆได้อย่างกระจังหน้าหรือมอเตอร์ไซต์ซึ่งมีชิ้นส่วนวัสดุเล็กๆมากมายโรตารีจึงยังคงเป็นที่นิยมในงานคาร์ดีเทลลิ่งเพื่อนำไปเก็บงานในบริเวณที่กล่าวมาเช่นกัน
เครื่องขัดโรตารีก็มีหลายรุ่นหลายราคาเช่นกันต่างกันที่กำลังมอเตอร์และระบบเฟืองความทนทาน
=================
เครื่องขัดสีรถแบบไร้สายกับมีสายเลือกแบบไหนดี ?
หากเป็นงานขัดเบาเคลือบเงาขัดลบรอยบางๆแนะนำแบบไร้สายช่วยเพิ่มความสะดวก สบายแต่หากใช้งานลบรอยขนแมวมีการขัดหนักแนะนำแบบมีสายที่เป็นกำลังมอเตอร์สูงจะทำงานขัดได้ดีกว่าแบบไร้สายกำลังขัดสูงกว่าทำงานได้ไวกว่าและไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่
=================
ซึ่งในปัจจุบันเครื่องขัดทั้งระบบโรตารีและดีเอก็มีหลายรุ่นหลายราคาตั้งแต่พันกว่าบากไปจนถึงหมื่นกว่าบาทซึ่งราคาที่แตกต่างกันคุณภาพย่อมแตกต่างกันเดี๋ยวในคลิปนี้เราจะมาแนะนำวิธีการตรวจสอบคุณภาพเครื่องขัดสีรถกันด้วยว่าเราควรจะต้องดูเรื่องอะไรกันบ้าง
เราจะเลือกซื้อเครื่องขัดสีรถอย่างไรให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด
- การรับประกันและบริการหลังการขายเนื่อ งจากเครื่องขัดสีรถแน่นอนหลายๆท่านซื้อมาไม่ได้ใช้ครั้งเดียวเดียวซื้อครั้งหนึ่งก็ใช้กันไปนานๆ เพราะฉนั้นการรับประกันจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องขัดสีรถที่ใช้ในคาร์แคร์หรืออู่สีที่ มีการใช้งานหนักตลอดทั้งวันแน่นอนว่าใช้งานไปหลายปีอะไหล่ย่อมมีเสื่อม หากมีอะไหล่เปลี่ยนหรือมีบริการหลังการขายก็จะช่วยเซฟค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องใหม่ไปได้นั้นเอง อย่างเครื่องขัดสีรถของ Shine mate เครื่องขีดสีรถทุกเครื่องมีระบบเลเซอร์เลข serial no. สำหรับการรับประกัน รวมถึงมีสต๊อคอะไหล่พร้อมให้บริการลุกค้าตลอดรองรับการใช้งานหนักเพราะฉนันเวลาซื้อแนะนำให้ดูเรื่องของการรับประกันด้วยราคาถูกแต่ใช้งานไม่ได้นานไม่มีบริการหลังการขายกับรเครื่องขัดที่าคาสูงกว่าแต่ใช้งานได้นานทนทานมีการรับประกันมีบริการหลังการขายย่อมน่าจะดีกว่า
- ตัวแป้นขัดสีรถที่ติดมากับเครื่องมีหลายกคุณภาพแตกต่างกันออกไป แต่ผู้ขายมักจะไม้ได้เน้นหรือบอก แป้นที่ติดมาหากไม่ได้คุณภาพใช้งานไป 2-3 ครั้งก็จะเสื่อมสภาพต้องวิ่งหาอะไหล่แป้นขัด ทั้งเงินเสียทั้งเวลาดังนั้นให้ดูคุณภาพของตัวแป้นที่ติดมากับเครื่องขัดด้วยว่าเป็นแป้นแบบไหนอย่างในเครื่องขัด Shine Mate ก็จะให้เป็นแป้นขัดเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Dust Devil ผลิตจากยูรีเทนทนทานต่อการใช้งานหนักมีรูระบายความร้อนขณะขัด
- หากเป็นเครื่องแบบมีสายไฟให้เช็คความยาวสายไฟเพราะมีผลกับการใช้งานสายไฟที่ยาว 5 เมตรจะเป็นมาตรฐานที่สามารถใช้งานได้สะดวกมากที่สุดไม่ยาวเกะกะหรือสั้นจนเกินไปแต่หากเป็นเครื่องขัดสีรถไร้สายให้ตรวจสอบเรื่องของคุณภาพแบตเตอรี่ให้ดีเป็นแบตลิเธี่ยทหรือไม่ วัสดุการผลิตของแบตเตอรี่เป็นอย่างไรอายุการใช้งานของแบตเตอรี่เนื่องจากแบตเตอรี่มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน
- วัสดุการผลิตภายในเครื่องไม่ว่าจะเป็นชนิดของมอเตอร์จารบีมอเตอร์การประกอบภายในซึ่งมีผลกับคุณภาพความทนทานของเครื่องขัดซึ่งหลายท่านก็อาจจะสงสัยว่าเราจะรุ้ได้อย่างไรจริงๆในปัจจุบันก็มี Youtuber ในต่างประเทศถอดเครื่องออกมาแยกขิ้นให้ดูกันเลยก็สามารถศึกษาได้จากรีวิวในต่างประเทศเช่นกันรวมถึงการใข้งานต่างๆด้วยมอเตอร์ทองแดงขนลวดหนาบางไม่เท่าซึ่งเดี๋ยวนี้เราสามารถหารีวิวในต่างประเทศได้โดยเฉพาะเครื่องขัดของ Shine Mate ที่มี Youtuber มารีวิวแกะเครื่องให้ดูวัสดุภายในสิ่งเหล่านี้มีผลกับคุณภาพการใช้งานทั้งหมด
- วัสดุเสริมที่มากับเครื่องขัดสีรถเช่นฟองน้ำขัดสีรถอันนี้สำคัญมากเนื่องจากฟองน้ำขัดสีรถมีาคาตั้งแต่หลังสิบไปจนถึงหลักร้อยคุณภาพความทนทานที่ต่างกันทำให้ราคาแตกต่างกันออกไปความหนาบางฟองน้ำไม่เท่ากัน จึงแนะนำให้คำนึงถึงความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปกับสิ่งเหล่านี้ด้วยเราอาจจะจ่ายเงินค่าฟองน้ำแพงกว่า 50 บาทแต่ได้ฟองน้ำที่คุณภาพดีกว่าทนกว่าจัดได้เร็วกว่าจากจัดได้ 1 คันกลายเป็น 5 คันทำงานได้เร็วขึ้นจาก 2 ชั่วโมงเป็น 1 ชั่วโมงสิ่งเหล่านี้เป้นต้นทุนทางเวลาด้วยนะครับอย่าง Shine Mate เค้าก็คิดค้นและจดสิทธิบัตรฟองน้ำขัดสีรถรุ่น Black Diamond ไว้ต่อมาก็มีสินค้าเลียบแบบสีเขียวเหมือนกันหน้าตาคล้ายกันแต่ในความเป็นจริงฟองน้ำบางกว่านุ้มกว่า ขัดได้ช้ากว่าไม่มีความทนทาน ก่อนซื้อก็แนะนำให้พิจารณาสิ่งเหล่านี้ด้วยฟองน้ำจะมีเรื่องของอายุสต็อคการเก็บอีกด้วย
- ความสบายในการขัดอันนี้เป็นเรื่องของเทคโนโลยีในการพัฒนาเครื่องหลักๆให้ดูที่น้ำหนักเครื่อง เครื่องอันนี้เป้นเรื่องของเทคโนโลยีของแต่ละแบรนด์
เพื่อนๆบางท่านซื้อเครื่องขัดมาได้ในราคาถูกแต่ใช้งานไปไม่นานเครื่องเสียไม่สามารถหาที่ซ่อมบำรุงได้ต้องทิ้งอย่างเดียวดังนั้นควรพิจารณาเลือกซื้อเครื่องขัดที่มีการรับประกันรวมถึงมีอะไหล่ในการซ่อมให้บริการหลังการขายยิ่งเครื่องขัดสีรถที่ใช้ในคาร์แคร์หรืออู่สีที่มีการใช้งานหนักตลอดวันแน่นอนว่าใช้งานไป 3-4 ปีอะไหล่ย่อมมีเสื่อมหากมีอะไหล่เปลี่ยนก็จะช่วยเซฟค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องใหม่ไปได้นั้นเอง
สุดท้ายแนะนำหากมีเวลาให้เข้ามาทดลองขัดด้วยตัวเองที่ร้าน Osaka99 มีเครื่องขัดหลายรุ่นหลายแบบให้เลือกมากกว่า 20 รุ่น สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 085-310-9191, 085-190-8181 LINE ID : @OSAKA99 www.osaka99.com