วิธีการเลือกเครื่องขัดสีรถยนต์ แนะนำให้ลูกค้าทุกท่านดูคลิปทั้ง 2 ตอนด้านล่าง เพื่อประกอบการเลือกซื้อเครื่องขัดสีรถยนต์ หลายๆท่านสงสัยว่าควรใช้เครื่องรุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี 2 คลิปด้านล่างมีคำตอบ
ตอนที่ 1 : แนะนำความแตกต่างระหว่างเครื่องขัดสีรถระบบ DA และ RO
ตอนที่ 2 : 7 สิ่งที่หลายๆท่านไม่รู้ ก่อนซื้อเครื่องขัดสีรถควรดูตามหัวข้อต่อไปนี้
ตอนที่ 3 : สอนขัดสีรถแบบมือโปร ดูจบขัดเป็นทันที ด้วยเครื่องขัดสีรถรุ่นใหม่ EX620 จาก Shine Mate
7 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนซื้อเครื่องขัดสีรถ [EP.2] เครื่องขัดสีรถรุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี
1. การเลือก design ขนาด รูปทรงของเครื่องขัด แนะนำให้เลือกที่เราชอบ เราจับถนัดมือ ซึ่งเครื่องขัดแต่ละรุ่น ก็จะมีความแตกต่างกันไป เช่นเครื่องขัดบางรุ่นวัสดุภายนอกเป็นพลาสติก ABS ทั้งหมด แต่ในบางรุ่นก็จะมีส่วนประกอบที่เป็นยางกันลื่นผสมอยู่ด้วย ทำให้เวลาจับสามารถจับได้มั่นคงมากยิ่งขึ้น รวมถึงเครื่องขัดบางรุ่นตัวเครื่องมีลัษณะสั้น บางรุ่นตัวเครื่องมีลักษณะยาวคล้ายแมงปอ ซึ่งไม่มีอันไหนดีกว่า หรือแย่กว่าครับ อันนี้แล้วแต่ความชอบและความถนัดของแต่ละบุคคล
2. น้ำหนักของเครื่องขัดสีรถ เครื่องขัดสีรถในสมัยก่อนนั้นมีนำ้หนัก 3-4 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าค่อนข้างหนัก ทำให้ผู้ขัดเกิดอาการเมื่อยล้าได้ง่าย ต่อมาเทคโลยีในการผลิตเปลี่ยนไป สามารถลดน้ำหนักของเครื่องลงมาเหลือเพียง 2 กิโลกรัม ทำให้ช่วยลดอาการเมื่อยล้าได้อย่างดี ช่วยให้ผู้ทำงานสามารถขัดใช้งานได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น
3. การเลือกแป้นขัดสีรถ เครื่องแต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์ก็จะมีเทคโนโลยีในการผลิตแป้นขัดที่แตกต่างกันไป บางรุ่นเป็นพลาสติก บางรุ่นผลิตจากยูรีเทน สำหรับแป้นขัดที่ผลิตจากยูรีเทน ก็จะมีความยืนหยุ่น ทนทานมากกว่า สามารถบิดงอได้ไม่เสียรูป สามารถโค้งงอไปตามลักษณะพื้นที่ที่เราขัดได้ นอกจากนี้สำหรับแป้นขัดรุ่นใหม่ๆ ก็มีรูระบายความร้อนเวลาสัมผัสกับสีรถก็จะช่วยลดความร้อนของหน้าสัมผัสฟองน้ำและแป้นขัด ทำให้แป้นขัดมีอายุการใช้งานยาวนานมากขึ้น ดังนั้นก่อนซื้อแนะนำให้ลูกค้าดูรายละเอียดเรื่องของแป้นขัดด้วยครับ
4. ณ ปัจจุบันเครื่องขัดสีรถ มีเทคโนโลยี และฟังก์ชั่นใหม่ๆที่ติดมากับตัวเครื่อง ที่จะช่วยให้งานขัดง่าย สะดวกสบายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อาทิ เช่น ฟังชั่น Soft Start ที่จะช่วยลดการสะบัดของเครื่องเวลาเปิดใช้งาน ระบบควบคุมควบเร็วรอบให้คงที่ รอบไม่ตก หรือเรียกว่า Speed Stabilization. ระบบ Cooling System ที่ช่วยระบายความร้อนออกจากตัวเครื่องได้รวดเร็ว ทำให้เครื่องไม่ร้อน รองรับการใช้งานหนัก สามารถขัดต่อเนื่องได้ตลอดทั้งวัน และสำหรับเครื่องขัดระบบ DA ณ ปัจจุบัน มีเทคโนโลยีเรียบกว่า ลูกตุ้ม CNC Component ช่วยให้เครื่องมีความนิ่ง เสถียร เวลาขัดไม่สะท้านมือ ซึ่งฟังกั่นต่างๆเหล่านี้ แนะนำให้ลูกค้าเข้าไปทดลองว่ามีอยู่จริงตามที่ผู้ขายระบุอยู่หรือไม่ รวมถึงสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทฑิภาพจริงตามที่ระบุไว้
5. การเลือกความยาวสายไฟ เครื่องขัดในสมัยก่อนๆความยาวสายไฟจะอยู่ที่ 2-3 เมตร ซึ่งไม่เพียงพอต่อการใช้งาน เกิดปัญหาสายไฟสั้นเกินไป ในปัจจุบันเครื่องขัดหลายๆรุ่นจึงมีการอัฟเกรดสายไฟให้ยาวขึ้นเป็น 5 เมตร รวมถึงเรื่องของเทคโนโลยีในสารผลิตหัวปลั๊กไฟ แนะนำเป็นแบบ VDE ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตจากยุโรปที่ทั่วโลกยอมรับว่าปลอดภัย
6. มอเตอร์ และระบบเฟือง มีส่วนสำคัญมากสำหรับท่านที่เป็นคาร์แคร์เนื่องจากมีการใช้งานหนัก ขัดต่อเนื่องทั้งวันและทุกวัน อาจทำให้เกิดมอเตอร์ไหม้ และระบบเฟืองกุดหรือเสื่อมได้ง่าย ดังนั้นควรเลือกเครื่องขัดที่มีมอเตอร์และระบบเฟืองที่มีความแข็งแกร่งทนทาน ผลิตมาเพื่อรองรับการใช้งานหนัก
7. การรับประกัน และบริการหลังการขาย ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เนื่องจากหลายๆท่านเป็นลูกค้าคาร์แคร์ มีการใช้งานหนัก เมื่อใช้งานไปเป็นระยะเวลานานหลายปี อะไหล่ย่อมมีการเสื่อมได้ หรือเครื่องอาจเกิดอุบัติเหตุชำรุด เราสามารถที่จะหาช่างผู้ชำนาญการใช่การซ่อมบำรุง รวมถึงอะไหล่ เพื่อที่จะซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้ดังเดิม
ทั้งหมดนี้ก็เป็นหัวข้อที่แนะนำใ้หทุกๆท่านสังเกตก่อนการตัดใจซื้อเครื่องขัดสีรถ และให้ดีที่สุด แนะนำให้ทุกท่านเข้าไปทดลองใช้งานด้วยตัวเองเพื่อให้ได้เครื่องขัดสีรถที่ถูกใจ และจะทำให้งานขัดเป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ มีความสนุก ความสุขในการขัดเคลือบสีรถ สำหรับในคลิปหน้า จะแนะนำความแตกต่างระหว่างระบบ DA แบบ force rotation DA กับ แบบ non force rotation DA ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ระบบไหนใช้งานง่ายและปลอดภัยกว่า ติดตามชมกันในคลิปหน้าได้เลยครับ สำหรับหน่วยวัดความเร็วรอบเครื่องขัดระบบโรตารีจะเรียกว่า RMP หรือว่า Round per minute ความเร็วรอบทั่วไปอยู่ที่ 700-2500 รอบ สำหรับหน่วนวัดความเร็วรอบเครื่องขัดสีรถระบบ DA หรือข้อเหวี่ยงจะเรียกว่า OPM Oscillation per minute ความเร็วทั่วไปอยู่ที่ 2000-6500 ขึ้นอยู่กับระยะเหวี่ยงด้วย
วิธีการเลือกซื้อเครื่องขัดสีรถยนต์ เครื่องขัดรุ่นไหนดี เครื่องขัดสีรถยี่ห้อไหนดี แบบไหนดี คลิปนี้มีคำตอบครับ เครื่องขัดสีรถยนต์ระบบ DA (Dual Action) กับ โรตารี (Rotary) แตกต่างกันอย่างไร ควรเลือกใช้งานแบบไหน วิธีการเลือกเครื่องขัดสีรถยนต์ ควรเลือกใช้งานอย่างไร ควรใช้เครื่องขัดสีรถระบบไหน เป็นคำถามที่หลายท่านสงสัย ก่อนอื่นก่อนที่จะตัดสินใจซื้อเครื่องขัดสีรถยนต์ เราควรทำความเข้าใจว่าเครื่องขัดสีรถแบ่งออกเป็นกี่ระบบ และแตกต่างกันอย่างไร
เครื่องขัดสีรถยนต์สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ระบบ คือ
1. ระบบ RO (Rotary) หรือระบบโรตารี
2. ระบบ DA (Dual Action) หรือระบบข้อเหวี่ยง ทั้ง 2 ระบบนี้แตกต่างกันที่การหมุนของตัวแป้น
1. เครื่องขัดสีรถ ระบบ RO (Rotary) หรือระบบโรตารี เครื่องขัดสีรถระบบโรตารีเป็นระบบการหมุนจุดเดียว (Circular Motion) ขณะขัดจะเกิดความร้อนสะสมบนผิวสีรถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถลบรอยขนแมว รอยลึกได้รวดเร็ว อย่างไรก็ตามการใช้งานเครื่องขัดสีรถระบบโรตารีนั้นควรรู้หลักวิธีการใช้งาน การขัดไม่ควรขัดแช่อยู่กับที่ เนื่องจากอาจะทำให้สีรถพองหรือไหม้ได้ ผู้ใช้งานควรมีความชำนาญและประสบการณ์ในการขัด เครื่องขัดระบบโรตารีนี้เหมาะสำหรับอู่สีรถยนต์ คาร์แคร์ หรือผู้ที่ต้องการความรวดเร็วในการทำงาน อย่างไรก็ตามด้วยนวัตกรรมของเครื่องขัดสีรถยนต์ SHINE MATE นั้นสามารถปรับระดับได้ 6 ระดับ จึงเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้นสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการขัด ให้เริ่มขัดด้วยรอบต่ำก่อน (รอบเบอร์ 1) เมื่อเกิดความชำนาญแล้วจึงค่อยเพิ่มรอบสูงขึ้น สำหรับ วีดีโอวิธีการใช้งานเครื่องขัดสีรถระบบโรตารี
2. เครื่องขัดสีรถ ระบบ DA (Dual Action) หรือระบบข้อเหวี่ยง สำหรับเครื่องขัดสีรถ ระบบ DA (ข้อเหวี่ยง) แป้นขัดจะหมุนแบบส่ายไปมา โดยจะมีลูกตุ้มน้ำหนักเพื่อให้แป้นมีการหมุนเหวี่ยงซึ่งการหมุนลักษณะนี้ จะช่วยกระจายความร้อนสะสมบนสีรถ ทำให้การขัดสีรถมีความปลอดภัย ใช้งานได้ง่าย ลดโอกาสสีรถไหม้ สามารถขัดลงหน้าเต็มได้ เครื่องขัดระบบ DA สามารถทำงานครอบคลุมตั้งแต่เคลือบเงาลงแวกซ์ไปจนถึงขัดลบรอยขนแมว อย่างไรก็ตามในกรณีขัดลบรอยลึกเครื่องขัดสีระบบโรตารีจะสามารถขัดลบรอยลึกได้ดีกว่าระบบ DA อย่างไรก็ตามเครื่องขัดสีรถระบบ DA เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์งาน Car Deatailing มือใหม่ได้เป็นอย่างดี หรือผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการขัดสีรถ วีดีโอวิธีการใช้งานเครื่องขัดสีรถระบบ DA ในการคิดค้นเครื่องขัดระบบ DA จะมีการคำนวนจุดหมุนเหวี่ยง ขนาดของลูกตุ้มเหวี่ยง (Counter Weight) ให้ได้สมดุลกับขนาดของแป้นขัดและฟองน้ำเมื่อใช้งานมากที่สุด เพื่อให้เกิดความเสถียรในการใช้งาน เครื่องจะไม่สั่นหรือส่ายแรงเวลาทำงาน ให้การทำงานที่นุ่มนวลที่สุด
โดยสรุปแล้วความแตกต่างของจุดหมุนเหวี่ยงส่งผลให้มีการใช้ขนาดของแป้นขัดสีรถที่แตกต่างกัน แล้วเราควรเลือกใช้เครื่องขัดระบบ DA ที่มีจุดหมุนเหวี่ยงเท่าไหร่ดี ?? แบบไหนเหมาะสมกับตัวเรา ?? เครื่องขัดที่มีจุดหมุนเหวี่ยง (Orbit) 21มม. แป้นขัด 6 นิ้ว เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการทำงานพื้นที่ใหญ่ๆ จะทำงานได้เร็วเนื่องจากแป้นและฟองน้ำทีขนาดใหญ่ ส่วนเครื่องขัดที่มีจุดหมุนเหวี่ยง (Orbit) 15มม. แป้นขัด 5 นิ้ว เหมาะสำหรับท่านที่ไม่ชอบแป้นใหญ่จนเกิดไป ต้องการทำงานในพื้นที่จำกัด ก็จะเหมาะกับการใช้เป็นแป้นขัดขนาด 5 นิ้ว สำหรับหน่วยวัดความเร็วรอบเครื่องขัดระบบโรตารีจะเรียกว่า RMP หรือว่า Round per minute ความเร็วรอบทั่วไปอยู่ที่ 700-2500 รอบ สำหรับหน่วนวัดความเร็วรอบเครื่องขัดสีรถระบบ DA หรือข้อเหวี่ยงจะเรียกว่า OPM Oscillation per minute ความเร็วทั่วไปอยู่ที่ 2000-6500 ขึ้นอยู่กับระยะเหวี่ยงด้วย ความแตกต่างของจุดหมุนเหวี่ยงของเครื่องขัดสีรถระบบ DA ระหว่างจุดหมุนเหวี่ยง (Orbit Size) 15มม. และ 21มม. ความแตกต่างระหว่างเครื่องขัดสีรถระบบข้อเหวี่ยง (DA) จุดหมุนเหวี่ยง (Orbit Size) 15มม. และ 21 มม. มีดังนี้ - เครื่องขัดสีรถจุดหมุนเหวี่ยง 15มม. จะมีขนาดแป้นขัด 5 นิ้ว - เครื่องขีดสีรถจุดหมุนเหวี่ยง 21มม. จะมีขนาดแป้นขัด 6 นิ้ว
สวัสดีครับพบกันอีกแล้วนะครับกับช่วงดูแลรถแบบมือโปรสำหรับวันนี้เราจะมาคุยเรื่องที่คาร์แคร์และก็ศูนย์รถยนต์เข้ามาปรึกษาที่ร้านกันนั้นก็คือขัดสีรถยังไงให้ลูกค้าเห็นรถแล้วประทับใจมากที่สุดรวมถึงหลายๆท่านก็มีปัญหาว่าต้องขัดหลายขั้นตอนกว่าจะได้ผลงานที่สวยอยากจะลดขั้นตอนทำงานให้ง่ายขึ้นจะมีวิธียังไงได้บ้าง
ทางร้านก็เลยจัดทำคลิปนี้เพื่ออยากให้ทุกคนเนี่ยได้เห็นว่านวัตกรรมของการขัดสีรถมาไกลขนาดไหนเราจะลืมการขัดแบบเดิมๆไปเลยครับการขัดแบบใหม่ง่ายและเร็วกว่าเดิมเยอะมากครับ
ก่อนที่เราจะเริ่มขัดกันเราต้องรู้องค์ประกอบสำคัญในการขัด 3 ข้อก่อน
- เครื่องขัดสีรถเครื่องขัดที่มีเทคโนโลยีที่ดีจะช่วยให้เราทำงานได้ง่ายรวดเร็วเร็วและปลอดภัยมากขึ้นที่ซึ่งวันนี้เราก็อยู่เครื่องขัดสีรถรุ่นใหม่ล่าสุจาก SHINE MATE มาเลยนั้นก็คือรุ่น EX620 เป็นเครื่องระบบ DA หรือว่าข้อเหวี่ยงต้องบอกว่าเป็นรุ่นที่มีการวมเอาทุกเทคโนโลยีที่ดีที่สุมาใส่ไว้ในเครื่องขัดเครืองนี้เครืองเดียวเลยนะครับซึ่งตอนนี้เจ้าเครื่องรุ่นนี้ก็กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในต่างประเทศเค้ามีการพัฒนามาให้สามารถทำได้รวดเร็วขึ้นถึง 60% และมีฟังก์ชั่นในการทำงานใหม่ๆเพียบเลยสำหรับรีวิวเครื่องแบบละเอียดกดติดตามกันได้ในคลิปหน้าเลยครับ
- วัสดุขัดอันนี้สำคัญไม่แพ้กันถ้าเลือกผิดขัดเท่าไหร่รอยก็ไม่ออกครับต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพรอยที่เกิดขึ้นซึ่งทางแบรนด์ Shine Mate ก็ได้มีวิจัยและพัฒนาวัสดุขัดไปพร้อมกับเครื่องขัดทำให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพจนได้อย่างฟองน้ำรุ่น Black Diamond ที่สามารถลบรอยได้ไวมากๆโดยไม่ทิ้งรอยและไม่เป็นอันตรายต่อชั้นสีมีความทนทานเพิ่งขึ้น 2 เท่าตอบโจทย์คนทำงานมากๆครับ
- และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือน้ำยาขัดสี 3D เรียกได้ว่าเป็นน้ำยาแห่งอนาคตเลยก็ว่าได้เพราะเป็นน้ำยาที่ทำให้เราทำงานได้เร็วขึ้นกว่าในสมัยก่อนลดขั้นตอนการทำงานแถมยังได้ความเงาที่มากกว่าเดิมอีกด้วยน้ำยา 3D เค้าจะมีนวัตกรรมที่เรียกว่า Zero Dust แบรนด์แรกของโลกเวลาขัดจะไม่มีเม็ดฝุ่นออกมาเลยทำให้เราไม่ต้องมาเช็ดเก็บงานอีกครั้งและอีกเรื่องที่สำคัญการเช็ดน้ำยาของแบรด์ 3D จะเช็ดง่ายทุกตัวแทบไม่ต้องออกแรงเลยไม่มีใครอยากได้น้ำยาที่เช็ดยากแน่นอนนอกจากนี้น้ำยา 3D นำเข้ามาทั้งขวดน้ำยาผ่านมาตรฐาน VOC PROP65 ไม่มีสารเคมีอันตรายหรือสารก่อมะเร็งเรื่องความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานหายห่วงเลยครับ
อย่างไรก็ตามมีคำถามเข้ามาเยอะมากว่าแต่ละคนก็เจอรอยที่ไม่เหมือนกันรอยแต่ละแบบต้องขัดยังไงทางร้านมีทำเป็นสูตรการขัดไว้ให้สามารถแอดไลน์เแล้วก็ขอเข้าไปได้เลย
จากที่กล่าวมาทั้งหมดถ้าเราอยากได้งานขัดที่สวยและเร็วต้องคำนึงถึง 3 ข้อนี้
มาดูสภาพรอยซึ่งรถที่นำมาในวันนี้รถส่วนมากจะเป็นรอยขนแมวริ้งแสงแบบรถ Alphard คันนี้ใช้งานมาประมาณ 1 ปีไม่เคยขัดสีไม่เคยเคลือบแก้วมีรอยขนแมวรอบคันแต่รอยไม่ลึกเป็นลักษณะริ่วแสงรอยวงๆด้วยนวัตกรรมล่าสุดของทางร้านขัดเคลือบ EX620 น้ำยาและฟองน้ำจะทำงานได้เร็วขนาดไหนไปชมกันเลยครับ
สำหรับรอยแบบนี้เราสามารถขัดด้วย 3D SPEED ขั้นตอนเดียวก็จบงานได้เลยบีบน้ำยาลงบนฟองน้ำประมาณ 4-5 เม็ดถั่วแสตมป์น้ำยาเพื่อไม่ให้เวลาขัดน้ำยากระเด็นเเริ่มเกลี่ยน้ำยาด้วยรอบเบอร์ 1 เพื่อเป็นการกำหนดพื้นที่การขัดแนะนำให้ขัดพื้นที่ประมาณ 60x60 ตร.ซม.
หลังจากนั้นปรับไปที่รอบเบอร์ 3 หรือ 4 เพื่อทำการขัดการขัดเครื่องระบบ DA สังเกตว่าจะแตกต่างจากระบบโรตารีโดยสิ้นเชิงเราแค่จับประคองเครื่องและเคลื่อนที่เครื่องเป็นแนวซ้าย-ขวาขึ้นลงเราจะนับนับเป็น 1 รอบหรือว่า 1 pass ให้ขัด 2-3 pass เวลาขัดให้เคลื่อนที่เครื่องช้าๆไม่ต้องรีบถ้าเราเคลื่อนที่เครื่องเร็วไปจะยิ่งทำให้รอยออกช้าไม่ต้องกลัวสีหลุดหรือสีไหม้เพราะว่าเป็นระบบ DA เวลาที่เราขัดจะเห็นทางน้ำยาชัดเจนการขัดพยายามให้หน้าฟองน้ำสัมผัสเต็มกับสีรถไม่ต้องเอียงเครื่อง
สำหรับความรู้สึกในการขัดเครื่องรุ่น EX620 ต้องบอกว่าสบายขัดง่ายใครที่ไม่มีเคยมีประสบการณ์ในการขัดมาก่อนก็ขัดได้ตัวเครื่องขัดและก็ฟองน้ำรุ่น Black diamond ออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันได้อย่างดีเยี่ยมรวมถึง EX620 มีการใช้ทุ่นแบบใหม่ CNC ทำให้เครื่องได้สมดุลนิ่งเสถียร ไม่สั้นสะท้านมือและให้เสียงการทำงานที่เงียบขึ้นเวลาขัดจะเห็นได้ว่าน้ำยา 3D จะไม่มีเม็ดฝุ่นหรือผงฝุ่นเลยออกมาเลยนะครับ
เราขัดครบ 2 pass แล้วนะครับเดี๋ยวไปเช็ดดูผลงานกันเลย
เรื่องการเช็ดน้ำยาก็สำคัญนะครับควรใช้ผ้าใหม่หรือผ้าที่ขนนุ่มและเวลาเช็ดไม่ควรออกแรงน้ำยา 3D ถือเป็นน้ำยาที่เช็ดง่ายมากๆตั้งแต่เคยใช้งานมาเลย
ตอนนี้มองด้วยตาเปล่าก็จะเห็นถึงความเงาทันทีเอาไฟส่องรอยดูจะเห็นได้เลยว่ารอยหายไปหมดพร้อมกับดึงความเงาของสีรถออกได้อย่างดีผิวรถตอนนี้ลูบดูจะรู้เลยว่ามีความลื่นมากขั้นตอนเดียวจบงานได้เลยครับ
แต่จะขอเสริมเพิ่มเติมสำหรับรถคันไหนที่มีสภาพรอยหนักมากมีรอยลึกรอยขนแมวเยอะมากๆแนะนำให้ใช้น้ำยา 3D ONE กับฟองน้ำเขียวหรือขนแกะ Super Fast ขัดก่อนและค่อยจบงานด้วย 3D SPEED
ซึ่ง 3D POXY ตัวนี้ถือครีมเคลือบเงาตัวท๊อปของทางร้านเลยก็ว่าได้ลูกค้าหลายท่านเคลือบไปแล้วติดใจในความเงาและก็ความทนของตัวแวกซ์
น้ำยาตัวนี้มีความพิเศษตรงที่มันผลิตมาจาก Montan Wax บริสุทธิ์ซึ่งมีคุณสมบัติให้ความเงาฉ่ำวาวแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน และทนความร้อนได้สูงถึง 95 องศาทนแดดทนฝนปกป้องสีรถได้ยาวนานสามารถใช้ได้กับรถทุกสีต้องบอกว่าเรื่องความเงาและความทนเนี่ยต้องยกให้ 3D POXY เป็นอันดับ 1 ณเวลานี้อันนี้ไม่ต้องเชื่อก็ได้นะครับสามารถขับรถเข้ามาทดลองเคลือบฟรีที่ร้านได้เลย
สำหรับในขั้นตอนการเคลือบเงาเนี่ยจะแตกต่างจากวิธีการขัดลบรอยนะครับเราบีบน้ำลงบนฟองน้ำประมาณ 4-5 เม็ดถั่วแล้วปั่นเคลือบที่รอบต่ำประมาณเบอร์ 1-2 ให้ทั่วทั้งคันได้เลยครับถ้าเราปั่นไปแล้วไม่เห็นทางน้ำยาให้บีบน้ำยาเพิ่มแล้วปั่นเคลือบต่อไปได้เลยครับสามารถปั่นเคลือบมือเดียวได้สบายๆปั่นเคลือยโคมไฟกระจกรถโครเมี่ยมเคฟล่าหลังคาแก้วได้ทั้งหมดแม้กระทั่งพลาสติกก็ไม่เป็นอันตรายสำหรับ 3D POXY
ตอนนี้ก็เสร็จเรียบร้อยนะครับเดียวเราขับออกไปดูผลงานกันเลยต้องบอกว่าเงามากลูกค้ามารับรถไป Happy สุดๆขับไปบนถนนผู้คนเหลียวหลังแน่นอนสำหรับท่านใดที่สนใจสามารถเข้ามาทดลองสินค้าได้ที่ร้าน OSAKA99 จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำฝกากดไลค์กดติตตามรายการ ดูแลรถแบบมือโปรกันด้วยนะครับสำหรับคลิปหน้าจะมีเทคนิตการดูแลรถมาฝากกันอีกกดติตดามกันได้เลย