โลชั่นมะหาด มะหาดโลชั่น ผิวขาวสูตรเร่งรัด เห็นผลภายใน 7
วัน ขนาด 250 ML
โลชั่นมะหาด
โลชั่นสุดฮิต สารสกัดจากมะหาด
มีคุณสมบัติ
ช่วยยับยั้งเม็ดสีผิว ปรับผิวให้ขาว กระจ่างใส อย่างเป็นธรรมชาติ ลดรอยหมองคล้ำ
ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น ไม่เหนอะหนะ ไม่เป็นอันตราย มีกลิ่นหอมของแอปเปิ้ลติดผิวกายตลอดทั้งวัน
สารสกัดมะหาด
ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสซึ่งทำปฏิกริยากับกระบวนการสร้างเม็ดสีผิว
จึงช่วยลดเลือนจุดด่างดำตามร่างกาย
ปรับผิวให้ขาวกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
Alpha Arbutin ( อัลฟ่าอาร์บูติน )
เป็นอนุพันธุ์สารสกัดจากต้นเบียร์ มีฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการมีฤทธิ์ยับยั้งกระบวน
การสร้างเม็ดสีเมลานินทุกขั้นตอนสามารถปรับสีผิวให้ขาวสดใสได้ในเวลาอันรวดเร็วลดฝ้า
กระ และรอยคล้ำรอยด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
วิธีใช้ : ชโลมโลชั่นลงบนผิวกายเป็นประจำ เช้า – ก่อนนอน
สามารถใช้กับครีมบำรุงอื่นๆได้ค่ะ
ผลการวิจัย
เภสัชศาสตร์ จุฬาฯ พบสูตรสมุนไพรไทย “แก่นมะหาด”
ลดความเข้มของเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง
มีผลทำให้ผิวขาวได้
ปลอดภัยและไม่ทำให้ระคายเคืองผิว
รศ.ดร.กิตติศักดิ์ ลิขิตวิทยาวุฒิ (ส.ก.18117 เข้าสวนฯปี
2514; OSK อีกท่านจากสกุลนี้ คือ อภิรักษ์ ลิขิตวิทยาวุฒิ OSK112)
และ รศ.ดร.ภาคภูมิ เต็งอำนวย อาจารย์ประจำภาควิชาเภสัชกรรม
คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งศึกษาวิจัย “สมุนไพรช่วยให้ผิวขาวจากแก่นมะหาด”
เปิดเผยว่า สารที่มีคุณสมบัติลดสีผิวและช่วยทำให้ผิวขาว
มีหลายประเภทขึ้นอยู่กับกลไกการออกฤทธิ์ ทั้งนี้ สารที่ทำให้เกิดผิวขาวที่นิยมใช้มากที่สุดคือ
สารขจัดสีผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารที่ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรสิเนส
ซึ่งทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยา ตั้งต้นของกระบวนการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานิน
สารเหล่านี้ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีราคาแพง
การศึกษาวิจัยสมุนไพรไทยจากแก่นมะหาด เพื่อพัฒนาสารที่ช่วยทำให้ผิวขาว
นับเป็นทางเลือกหนึ่งในการลดการนำเข้าสารเหล่านี้จากต่างประเทศ
มะหาดมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Artocarpus lakoocha Roxb. เป็นต้นไม้ยืนต้นในวงศ์ Moraceae พบมากในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชาวบ้านนิยมนำแก่นมาต้มกับน้ำ และนำสิ่งที่สกัดได้มาทำให้เป็นผงแห้ง เรียกว่า “ปวกหาด” ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิตัวตืด
การศึกษาวิจัยเรื่องสรรพคุณของมะหาดที่ทำให้ผิวขาวนั้นเริ่มต้นเมื่อปี 2541
โดยทำการสุ่มตัวอย่างพืชสมุนไพรหลายชนิด
มาทดสอบฤทธิ์ในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรสิเนสในหลอดทดลอง จนกระทั่งพบว่าสารสกัดจากแก่นมะหาด
ให้ผลยับยั้งเอนไซม์ชนิดนี้มากที่สุด และมีความเป็นไปได้ที่จะนำสารชนิดนี้มาพัฒนา
เป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
ผู้วิจัยได้ทำการประเมินประสิทธิผลของสารสกัดจากแก่นมะหาดเป็นลำดับขั้น
เริ่มจากการศึกษาในหนูตะเภา และการทดลองใช้ในอาสาสมัคร
โดยช่วงแรกผู้วิจัยได้นำผงปวกหาดที่หาได้ง่ายมาทดลองใช้
เปรียบเทียบกับสารที่ช่วยทำให้ผิวขาวเป็นที่นิยมใช้อยู่ในปัจจุบันและมีราคาแพง
ผลการทดลองพบว่าปวกหาดมีประสิทธิภาพในการลดความเข้มของสีผิวในหนูตะเภา
ต่อมาได้ทำการศึกษาในอาสาสมัครจำนวน 4 คน
โดยทาสารสกัดจากแก่นมะหาดที่แขนวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 4
สัปดาห์ และทำการวัดค่าความเข้มของสีผิวด้วยเครื่อง Mexameter
พบว่าแขนที่ทาด้วยสารสกัดจากแก่นมะหาดมีแนวโน้มให้ค่าความเข้มของสีผิวลดลง
นอกจากนี้ ยังไม่มีอาการแพ้หรือระคายเคือง ในที่สุดผู้วิจัยได้ศึกษาในอาสาสมัครจำนวนมากขึ้น
คือ 60 คน ในระยะเวลา 12 สัปดาห์
โดยแบ่งอาสาสมัครออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 20 คน เป็นเพศหญิง อายุ 20–48 ปี มีสภาพผิวหนังปกติ
จากการทาสารสกัดที่ต้นแขนของอาสาสมัครวันละ 2 ครั้ง
เช้า-เย็น เปรียบเทียบกับอาสาสมัครที่ทาด้วยสารสกัดจากชะเอมและกรดโคจิก
ผลการทดลองพบว่ากลุ่มอาสาสมัครที่ทาด้วยสารสกัดจากมะหาด จะมีผิวขาวขึ้นเรื่อย ๆ
ความขาวของสีผิวจะเห็นผลในระยะเวลาเพียง 4 สัปดาห์
และจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างมีนัยสำคัญตามระยะเวลาที่ทำการทดลอง นอกจากนี้
ยังไม่พบอาการแพ้หรือระคายเคืองผิวแต่อย่างใด ในขณะที่สารสกัดจากชะเอมและกรดโคจิกให้ผลในการทำให้ผิวขาวในระยะเวลาที่นานกว่า
คือ 10 และ 8 สัปดาห์ตามลำดับ
ปัจจุบันการศึกษาวิจัยในเรื่องนี้อยู่ในขั้นตอนการทดลองพัฒนา
ตลอดจนศึกษาถึงประสิทธิภาพและความคงตัวเมื่ออยู่ในสูตรตำรับต่าง ๆ
เปอร์เซ็นต์ความเข้มข้นที่เหมาะสมสำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์
รวมถึงวิธีการสกัดสารจากแก่นมะหาดให้มีความบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น
ไม่พบสินค้าที่คุณต้องการ?
ลงประกาศซื้อสินค้าที่นี่