เช่นเดียวกับแฟชั่นกระเป๋าใบใหญ่ ที่กำลังมาแรงไม่แพ้สร้อยคอเส้นหนา และโดยธรรมชาติของผู้หญิงมักไม่เคลียร์สิ่งของออกจากกระเป๋า มิหน่ำซ้ำยังหาของใส่เข้าไปเพิ่ม ทำให้กระเป๋าของคุณผู้หญิงบางรายหนักหลายกิโลกรัม
" กระเป๋าใบใหญ่ใช้ได้ไม่ผิดอะไร แต่น้ำหนักโดยมาตรฐานไม่ควรเกิน 10% ของน้ำหนักตัว เช่น ถ้าน้ำหนักตัวอยู่ที่ 50 กิโลกรัม น้ำหนักของกระเป่๋าไม่ควรเกิน 5 กิโลกรัม แต่ 5 กิโลกรัมในที่นี้หมายถึง การรับน้ำหนักของไหล่ทั้ง 2 ข้าง เพราะฉะนั้นก็จะเหลือเพียงข้างละ 2.5-3 กิโลกรัมเท่านั้น" คุณหมอ กล่าว
ตัวกระเป๋ามีหลายดีไซน์ ถ้าเลือกได้ก็ควรเลือกใช้กระเป๋าผ้าหรือใยสังเคราะห์ ซึ่งจะดีกว่ากระเป๋าหนังแท้ซึ่งมีน้ำหนักมาก กระเป๋าที่ออกแบบให้มีช่องเล็กๆ สำหรับจัดหมวดหมู่สัมภาระ จะดีกว่ากระเป๋าที่เปิดมาแล้วไม่มีช่องใส่อะไรเลย เพราะเมื่อใส่ของลงไปด้านในกระเป๋า ของทั้งหมดจะไปกองไว้ที่ด้านใดด้านหนึ่งของกระเป๋า ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้กล้ามเนื้อทำงานหนักเฉพาะจุด
"พยายามใส่ของให้แต่ละช่องมีน้ำหนักเท่าๆ กัน จะช่วยกระจายน้ำหนักได้ดีขึ้น" คุณหมอแนะเคล็ดลับ
เวลาที่ต้องถือกระเป๋านานๆ ตัวแถบหรือหูของกระเป๋าก็มีผลเช่นกัน ยิ่งแถบมีขนาดเล็กมากเท่าไร ยิ่งเสี่ยงกับอาการปวดเฉพาะจุดจากแรงกดที่จุดเดียว ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งบริเวณสะพายกระเป๋าเป็นประจำ จึงแนะนำให้เลือกหูกระเป๋าที่มีความกว้าง 1 นิ้วขึ้นไป ซึ่งจะช่วยกระจายแรงและความเสี่ยงที่จะกดกล้ามเนื้อมัดที่ปวดให้ลดลง