เมลานี ปรูโว วัย 10 ปี ลูกสาวของพ่อค้าขายเนื้อชนชั้นกลาง
มีพรสวรรค์ในการเล่นเปียโน เธอมีความฝัน
ที่จะสอบเข้าเรียนโรงเรียนดนตรีมีชื่อแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส
แต่แล้วความฝันน้อยๆ ของเด็กหญิงเมลานีกลับถูกทำลายลงในพริบตาเดียว
เพียงเพราะกรรมการซึ่งเป็นนักเปียโนชื่อดังอย่าง อาเรียน
มัวแต่สนใจกับแฟนเพลงที่เปิดประตูเข้ามาขอลายเซ็น
ขณะที่เด็กหญิงเมลานีกำลังเล่นเปียโน เธอถูกรบกวนจนเสียสมาธิ
ไม่สามารถเล่นต่อได้ และไม่สามารถสอบเข้าเรียนต่อในโรงเรียนดนตรีที่เธอใฝ่ฝัน
เธอกลับบ้านด้วยน้ำตาเอ่อแก้ม พร้อมกับความแค้นที่เปี่ยมล้นในหัวใจดวงเล็กๆ ของเธอ
เธอตัดสินใจเลิกเล่นเปียโนตลอดชีวิต และเก็บความแค้นไว้ลึกถึงก้นบึ้งหัวใจ
เวลาผ่านไป เมลานีก้าวเข้าสู่วัยสาว เธอเข้าฝึกงานกับสำนักงานกฏหมาย
และได้พบกับสามีของ อาเรียน นักเปียโนชื่อดัง ผู้ที่เคยดับฝันในวันเด็กของเธอ
เธอตัดสินใจเสนอตัวเป็นผู้ช่วยดูแลลูกชายของเขาทันทีแบบไม่ลังเล
เมลานีทำให้ทุกคนในบ้านรวมถึงอาเรียนวางใจในตัวอย่างรวดเร็ว
สามีของอาเรียนเปิดเผยความลับให้เมลานีฟังว่า
หลังจากที่อาเรียนประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์
เธอก็กลายเป็นโรคตื่นเวทีนับแต่นั้นเป็นต้นมา
ทำให้ไม่สามารถเล่นเปียโนต่อหน้าคนเยอะบนเวทีคอนเสิร์ตได้
แต่อาเรียนก็ได้รับคำเชิญให้เล่นคอนเสิร์ตสดผ่านทางรายการวิทยุ
ด้วยเสน่ห์และความสามารถทางด้านดนตรีของเมลานี
เธอจึงได้กลายเป็นมาเป็นผู้ช่วพลิกโน๊ตให้กับอาเรียน
ในงานคอนเสิร์ททางวิทยุ อาเรียน ตื่นเวทีมาก
เมลานีถือโอกาสนั้นเข้าไปปลอบประโลมเธอ
จนเธอสามารถกลับมาเล่น เปียโนได้อย่างน่าประทับใจ
เมลานีจึงเปรียบเสมือนที่พึ่งทางใจของเธอในยามขึ้นเวที
เธอจึงไม่สามารถเล่นเปียโนบนเวทีได้ถ้าไม่มีผู้ช่วยเปิดโน๊ตสาวคนนี้
หนังเรื่องนี้เป็นหนังทริลเลอร์สัญชาติฝรั่งเศสที่น่าดูเรื่องหนึ่งค่ะ
ในหนังไม่มีฉากเลิฟซีนใดๆ เพราะฉะนั้นเสียใจด้วยสำหรับคนที่ตั้งตารอหนังเลิฟซีนดุๆ
แต่สำหรับคนที่มองหาหนังดีๆ หนังเรื่องนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ
เพราะบทและจังหวะ ในการถ่ายทอดและเร่งอารมณ์คนดูนั้นทำให้ลงตัวมาก
แม้จะมีการเล่าเรื่องด้วยจังหวะที่ราบเรียบและดูเย็นชาไปบ้าง
แต่การเล่าเรื่อง ด้วยความเย็นชาและราบเรียบแบบนี้ กับส่งผลดี กับตัวหนังมากๆ
และเป็นตัวเร่งอารมณ์คนดูให้มีอารมณ์ร่วมไปพร้อมๆ กับตัวละคร
แม้เพียงฉากจับมือเล็กๆ หรือการส่งสายตาหวานๆ ให้กัน
กลับเร้าอารมณ์คนดูได้มากกว่าการจับฉากเลิฟซีนดุๆใส่มาเป็นไหนๆ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รีวิวจาก OKNation
ทุกๆ สุดสัปดาห์คงจะมีคนในโลกนี้ ออกจากบ้านไปดูหนังในวันหยุด และหลายคนในจำนวนนั้นก็อาจจะเลือกดูแต่หนังที่ถูกนำเสนอด้วยทุนสร้าง โปรดักชั่นใหญ่โตเป็นหลัก
หลายๆ ครั้งนะครับที่หนังเล็กๆ ที่ดี ต้องค่อยๆ แทรกตัวอย่างเงียบๆ อยู่ในโปรแกรมซึ่งอัดแน่นไปด้วยหนังในกระแสหลัก หนังเล็กๆ แบบนี้ มักจะรู้กันในหมู่คนดูต้นคอว่า มันดีและน่าสนใจแค่ไหน
สุดสัปดาห์นี้หนังเล็กๆ ที่ว่าก็คือ paris, I love you แต่สุดสัปดาห์ที่แล้ว หนังเล็กๆ อีกเรื่องที่ค่อยๆ แทรกตัวฉายอย่างเงียบๆ ก็คือ the page turner (ทั้งสองเรื่องเป็นหนังฝรั่งเศสทั้งคู่)
งานบางชิ้นนั้น เราต้องดูที่วิธีการถึงจะสนุก ขณะที่เรื่องอื่นๆ อาจต้องมองที่พล็อท หรือตัวละคร ฉะนั้นใครที่ดู the page turner ถ้าไปเข้าใจระเด็นผิด อาจจะไปกันใหญ่ หมายความว่าหนังเรื่องนี้ไม่มีเจตนาจะสนับสนุนให้ใครล้างแค้นใคร มันเป็นเพียงเสนอด้านมืดของคนและวิธีการเอาคืนของผู้หญิงคนหนึ่ง
เหมือนดู titanic หนังก็ไม่ได้พูดถึง “เรือใหญ่ที่สร้างไม่ดี” ดู the insider ก็ไม่ได้หมายความว่าหนังจะพูดเรื่อง “โรงงานยาสูบ”
เรื่องแรกน่ะพูดถึงความรักแท้(true love) ขณะที่เรื่องหลังแตะเรื่องคุณธรรม(ethics)
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงชื่นชอบหนังตระกูล(genre) พวก filmnoir มากที่สุด เนื่องเพราะมันดึงเอาแง่มุมลึกลับและเป็นด้านมืดของมนุษย์ออกมาตีแผ่ มันแสดงให้เห็นถึงด้านที่เปราะบาง อ่อนแอและพร้อมจะแกว่งไปอีกด้านของชีวิตได้ เมื่อเจอสถานการณ์ไม่คาดฝัน
เมลานี (เดเบอร่าห์ ฟรานเชส) เด็กสาววัย 10 ขวบของพ่อค้าขายเนื้อในเมืองเล็กๆ ดูเหมือนจะมีพรสวรรค์ทางด้านเปียโนเป็นพิเศษ เธอเข้ารับการสอบคัดเลือกเพื่อเข้าเรียนที่โรงเรียนดนตรี แต่พฤติกรรมที่ขาดความยั้งคิดของประธานกรรมการตัดสิน ซึ่งเป็นนักเปียโนคอนเสิร์ต ทำให้สมาธิของเธอไขว้เขวเป็นผลให้เธอสอบตก เมลานีที่ผิดหวังอย่างขมขื่นจึงหันหลังให้กับเปียโนโดยสิ้นเชิง
แต่ใครจะรู้ว่าอีก 10 ปีต่อมา ขณะที่เมลานีกำลังฝึกงานอยู่ที่สำนักงานกฎหมาย เธอได้พบกับคุณผู้ชายแห่งบ้านฟูเชคอรท์ (ปาสคาล เกรกอรี่) ผู้เป็นสามีของหญิงที่เคยเป็นประธานลงคะแนน และทำให้เธอจบสิ้นเส้นทางอาชีพชองนักเปียโน
เธอเสนอตัวไปเป็นพี่เลี้ยงให้ลูกชายของบ้านฟูเชคอร์ท และเมื่อเธอพบกับมาดามซึ่งเคยทำให้เธอปวดร้าวเมื่อ 10 ปีที่แล้ว นั่นก็หมายความว่า การล้างแค้นของเธอกำลังจะเริ่มขึ้น
ถ้าเป็นดนตรี นี่คือบทเพลงที่เธอจะเล่น
และถ้าเป็นอาหาร มันคือมื้อที่หอมหวานที่สุด สำหรับแม่ครัวอย่างเธอ

ผมมีความรู้สึกว่าคนที่แคชตัวนักแสดงเรื่องนี้ เก่งมาก เลือกเด็กเก่ง เพราะ เดเบอร่าห์ ฟรานเชส นั้น พอเล่นๆ ไปหน้าตาค่อยๆ ออก คือค่อยๆ เหี้ยมอย่างมีเสน่ห์ พอจะอ่อนหวานน่าเอ็นดูเธอก็แสดงเสียจนคนดูเคลิ้มไปด้วย พอจะเหี้ยมโหด ก็ทำเอาผู้ชมต้องลุกขึ้นมาขยับตัวนั่งใหม่ เพราะพบว่า มันไม่ธรรมดาเสียแล้วสำหรับเมลานี ที่ทำให้คนดูหลงรัก
เดบอร่าห์ ฟรานเชส นี่ ถ้าไม่ทิ้งการแสดง เธอสามารถเติบโตไปในแคแรคเตอร์ของ femme fatale สบาย เป็นพวกผู้หญิงร้ายลึกที่พบเห็นในหนังฟิล์มนัวร์
การล้างแค้นของ เมลานี ต่อมาดามนั้น ถูกจัดการอย่างเป็นระบบระเบียบและแนบเนียน แถมยังนุ่มนวล
หลังจากวางตัวจนมาดามไว้ใจถึงขั้นให้เป็น “คนพลิกแผ่นโน้ต” (the page turner) เวลาเล่นเปียโนแล้ว ยังให้ดูลูกและเรื่องในบ้าน กระทั่งก้าวล่วงไปถึงการเป็นคนพลิกกระดาษโน้ตยามเล่นคอนเสิร์ตจริงๆ
คนเล่นดนตรีเป็นคงทราบนะครับว่า คนที่จะพลิกโน้ตนั้นสำคัญมาก พลิกช้าเพลงก็เสีย พลิกหน้ากระดาษเร็วไปเพลงก็ไม่สมูธ เมลานี ทำให้ทุกอย่างลงตัวได้เพราะเธอเล่นเปียโนเป็นมาก่อน จึงอ่านโน้ตเป็นและ “รู้จังหวะ”
เหมือนคนเล่นบอลเป็น พอดูบอลก็มองเห็นมุม ที่ต่างไปจากคนชอบบอลเฉยๆ
มาดามน่ะมีคิวจะโชว์งานใหญ่ถึงสองคิว และโปรโมท เมลานี เป็น the page turner ของเธอ นั่นก็หมายความว่า ถ้าเมลานีจะ “เอาคืน” และทำให้เธอสูญเสียเครดิตสำคัญต่อหน้าแขก มันก็มาถึงแล้ว

แต่ถ้าให้ดีสำหรับ เมลานี คิดจะโค่นล้มทั้งสถานะทางสังคมและทำให้ลูกชายหมดอายุขัยทางการเล่นดนตรีไปด้วยน่าจะดีกว่า (ไปดูกันเองว่าเธอทำอย่างไร)
บทหนังเนี๊ยบทีเดียวในการนำเสนอส่วนต่างๆ ออกมา กระชับ หนักแน่นและสมบูรณ์แบบ จนแทบจะกลายเป็นหนังที่ดีที่สุดของเดือนกรกฏาคม เมื่อมองจากภาพรวมทุกส่วน
The page turner ใช้องค์ประกอบและพื้นฐานของ filmnoir ทำให้หนังมีลักษณะของ thriller ที่มีแง่มุมของ psychology เข้ามาเกี่ยวข้อง
ผมชอบงานสร้างที่รับใช้ธีมของเรื่องทุกอย่างตลอดเวลา มีอยู่หลายฉากที่เส้นผนังของฉากหลัง (กระทั่งมุมของการวางเปียโน) จะตัดทแยงกัน เฉียงไปมาทั่วเฟรม สร้างความรู้สึกบาดคมและอารมณ์ไม่มั่นคงในหนัง
มันเหมือนคมมีดหรือ “ของมีคม” ที่พร้อมจะทิ่มแทง ซึ่งก็คือ เมลานี กับมาดามนั่นเอง
อีกฉากที่ก็คือ เงาสะท้อนจากเปียโนฝั่งที่ เมลานี นั่งคอยเปิดโน้ต หรือเวลาเธอแต่งตัว ก็จะเห็นเงามืดๆ แฝงอยู่ มันไม่ใช่หนังผีหรอกครับ แต่คือการบอกว่า เด็กสาวคนนี้มีมิติที่น่าสยดสยองรอคอยบางอย่างอยู่
เธอบอกลูกชายว่า ลองซ้อมเล่นเปียโนเร็วๆ ดู ก็เพราะต้องการให้กล้ามเนื้อมือเสีย นี่ยังไม่นับสัมผัสของทอมดี้ที่เธอเสนอต่อแม่ของเด็กอีกด้วย
หน้าตาของ เมลานี ค่อยๆ ร้ายขึ้นเรื่อยๆ และเธอก็เปลี่ยนชุดแต่งกายจนดำสนิท ตัดกับผิวเนื้อเนียนขาว
ถ้า “การล้างแค้น” คือ “อาหารมื้อหนึ่ง” เสื้อดำแนบเนื้อคือ “อาภรณ์ของแม่ครัว” อย่างเธอ
ถ้ามันคือ “บทเพลงบรรเลง” เมลานีกำลังจะเล่นเพลงที่ลึกลับน่าฟัง ด้วยตัวโน้ตและการประพันธ์ของเธอ
แววตาใสซื่อแต่เย็นชา ท่าทีเป็นมิตรแต่ชิดใกล้ไม่ได้ ให้คนดูถูกจับโยนไปพร้อมๆ กับมาดาม ไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เธอจะทำต่อไป
จริงๆ หนังจะต้องมีข้อบกพร่องแล้วเกี่ยวกับความไว้วางใจอย่างรวดเร็วของมาดามที่มีต่อเมลานี แต่คนเขียนบทฉลาดที่ใส่ความสัมพันธ์แบบเลสเบียนเข้าไปถมเอาไว้
เดือนนี้ผมรู้สึกโชคดี ได้ดูหนังเล็กๆ แต่โคตรดีสองเรื่องไล่ๆ กัน (ไม่มี harry potter อันน่าเบื่อแน่นอน) เรื่องแรกคือ paris, I love you ที่มีสีสันและโรแมนติค แถมตลก
เรื่องที่สองคือ the page turner ที่เล่นงานเราด้วยด้านมืดของมนุษย์
นักวิจารณ์อเมริกาพูดถึงเรื่องนี้ว่า นี่คือหนังดีเรื่องหนึ่งของปีนี้
ผมว่าเขาพูดถูกครึ่งและขาดไปครึ่ง
ถูกครึ่งหนึ่งคือ ใช่ครับ นี่คือหนังดี แต่ที่ขาดไปครึ่งก็คือ
นี่คือหนังดี 1 ใน 10 เรื่องของปี 2007 อย่างไม่ต้องสงสัย