โฆษณาผ่านเมล์ (Email Marketing)
อีเมล์ เป็นอีกหนึ่งวิธี ที่นิยมใช้ในการโฆษณา เพราะใช้งบน้อย แต่สามารถกระจายโฆษณาไปได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ได้ติดตามข่าวสารจากเรา ก็สามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสาร หรือสินค้าใหม่ ๆ รวมถึงการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในธุรกิจจากเราได้ง่ายขึ้น
การโฆษณาด้วยอีเมล์ มีข้อดี/ข้อเสียต่าง ๆ ต่อไปนี้
ข้อดี
- สะดวก รวดเร็ว และสามารถสื่อโฆษณาโดยตรงถึงกลุ่มเป้าหมายได้ครั้งละมาก ๆ
- ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย รับรู้ถึงความเคลื่อนไหวของธุรกิจเรา
- เพิ่มโอกาสที่จะได้ลูกค้าใหม่
ข้อเสีย
- ปัจจุบันนี้ ผู้ให้บริการเว็บเมล์เช่น hotmail, gmail ฯลฯ ค่อนข้างเข้มงวดในเรื่องของการกรองอีเมล์ขยะ(Junk-Mail) ซึ่งถ้าอีเมล์ที่ได้รับ เป็นอีเมล์จากคนที่ไม่รู้จัก จะถูกมองเป็นเมล์ขยะ แล้วโยนอีเมล์นั้นเข้าไปที่ Junk-Mail ทำให้ผู้รับอีเมล์อาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นแม้แต่หัวข้ออีเมล์ที่เราส่งไป
- การใช้เว็บเมล์เช่น Hotmail, Gmail ฯลฯ ในการส่งเมล์ครั้งละมาก ๆ หลาย ๆ ครั้ง (เช่น ส่งอีเมล์จำนวนมาก ๆ ทุกวัน) จะทำให้ผู้ให้บริการเมล์ มองว่าเรากำลังส่ง Spam Mail (เมล์โฆษณา หรือเมล์ก่อกวน) ซึ่งทำให้ผู้รับอีเมล์รำคาญ และเราจะถูกบล็อคอีเมล์นั้น ๆ ทำให้ไม่สามาถใช้บริการเมล์ได้อีก
นอกจากนี้ถึงเราจะใช้อีเมล์จากเว็บ Host ที่เราไปเช่า (เป็นชื่ออีเมล์ตนเองโดยตรง) มาใช้ในการส่งเมล์ ก็อาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้ ถ้าส่งอีเมล์จำนวนมาก ๆ ติดต่อกันหลาย ๆ วัน อาจจะทำให้ Server ที่เราใช้บริการอยู่ ถูกแบน และติด spam black list ซึ่งจะทำให้อีเมล์ที่ส่งออกไปให้ใคร ก็จะโดนกีดกันและตีกลับหมด
ดังนั้นจะเลือกส่งอีเมล์ด้วยตนเอง ไม่ควรจะทำครั้งนึงมากเกินไป และส่งติด ๆ กัน เพราะจะโดนมองว่าเป็นสแปมเมล์ และถูกบล็อคได้
- อัตราความสนใจโฆษณาของลูกค้า จะค่อนข้างต่ำมาก ยิ่งถ้าหัวข้ออีเมล์ในเชิงโฆษณานั้นดูผ่าน ๆ แล้วไม่น่าสนใจ ก็อาจจะไม่เปิดเข้าไปดูโฆษณาในอีเมล์ที่ส่งไปเลย
หลักการส่งเมล์ที่ดี
- ควรส่งอีเมล์ให้กับคนที่ยินดีรับข่าวสารจากเรา จะดีกว่าหว่านส่งอีเมล์ไปทั่ว เพราะจะทำให้ผู้รับอีเมล์รำคาญ โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้ยินดีที่จะรับอีเมล์จากเรา
- ลูกค้าเก่าถือเป็นอีกกลุ่มเป้าหมายที่ควรจะส่งเมล์ข่าวสาร หรือโปรโมชั่นดี ๆ เพื่อดึงดูดใจให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อหรือใช้บริการกับเราอีก และยังทำให้ลูกค้าเก่ารู้สึกว่าเรามีความเคลื่อนไหวธุรกิจเสมอ
- ส่วนที่สำคัญที่สุด คือ "หัวข้อเมล์" ซึ่งต้องสั้น กระชับ และมีแรงดึงดูดใจมากพอที่จะทำให้ผู้รับเมล์อยากเปิดเข้าไปดูอีเมล์นั้น
- การส่งเมล์ครั้งละจำนวนมาก ๆ แนะนำให้ใช้โปรแกรมส่งอีเมล์เฉพาะ เช่น อีเมล์จากโฮสที่เราใช้บริการอยู่ หรือจ้างบริษัทที่รับทำบริการส่งเมล์เป็นคนทำให้ เพราะจะได้ไม่มีปัญหาการบล็อคการใช้งานจากผู้ให้บริการอีเมล์ฟรี หรือถ้าเราจะใช้บริการอีเมล์ฟรี (hotmail, gmail) ในการส่งเมล์ ก็ควรเว้นระยะการส่งบ้าง เพื่อไม่ให้ถูกมองว่าเรากำลังทำแสปมเมล์
- ควรเลือกเวลาที่ส่งเมล์ เป็นช่วงเวลาที่คาดว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะมีเวลาว่างที่จะเปิดเมล์เราอ่าน เพราะคนส่วนใหญ่ ให้ความสนใจในอีเมล์โฆษณาค่อนข้างต่ำมาก หากส่งอีเมล์ไปในช่วงที่ลูกค้าไม่มีเวลา หรือไม่มีอารมณ์ดูอีเมล์ ก็อาจจะทำให้อีเมล์นั้นตกและหลุดไปจากรายการอีเมล์ใหม่ ๆ ของกลุ่มเป้าหมายได้
- ไม่ควรส่งเมล์ในลักษณะโจมตีคู่แข่งธุรกิจ เพราะจะทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกลบกับธุรกิจของเรา
- เนื้อหาในอีเมล์ อาจจะทำขึ้นมาให้มีความหลากหลาย เช่น มีภาพ หรือวีดีโอแทรกอยู่บ้าง จะทำให้อีเมล์นั้นดูน่าสนใจมากขึ้น เพราะอีเมล์ที่มีแต่ข้อความอัดแน่นอย่างเดียว จะทำให้ลูกค้าเบื่อและไม่อยากเปิดดูโฆษณานั้น ๆ
- อาจจะเพิ่มโปรโมชั่นพิเศษดึงดูดใจ เช่นส่งรหัสรับส่วนลดไปพร้อมกับอีเมล์ เพื่อนำมากรอกซื้อสินค้าในราคาส่วนลด
- อีเมล์นั้นควรจะสามารถเปิดดูได้ทั้งบน PC และมือถือ เนื่องจากปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่ก็นิยมใช้งานมือถือในการตรวจสอบอีเมล์มากขึ้น
- ไม่ควรแนบไฟล์ขนาดใหญ่ไปพร้อมกับอีเมล์ เพราะอีเมล์ที่มีขนาดใหญ่เปิดช้า จะทำให้เกิดความรำคาญและไม่อยากเปิดเข้าไปดู
เราจะส่งอีเมล์เกี่ยวกับเรื่องอะไรได้บ้าง?
- แนะนำธุรกิจหรือสินค้า
- แจ้งข่าวคราวความเปลี่ยนแปลงของร้าน
- แจ้งข่าวเกี่ยวกับสินค้าใหม่
- แจ้งข่าวเกี่ยวกับโปรโมชั่นใหม่ ๆ
- ส่งข้อความอวยพรให้กับลูกค้าในช่วงเทศกาลต่าง ๆ