นิชคุณ หรเวชกุล นักร้องไทยที่โด่งดังระดับเอเชีย เปิดใจรับเล่นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรก กับค่าย จีทีเอช ในภาพยนตร์ “รัก 7 ปี ดี 7 หน” หนังรัก 3 เรื่อง 3 ผู้กำกับ ในเรื่องเดียวกัน เพื่อฉลอง 7 ปี จีทีเอช เรื่องแรก ชื่อตอนว่า “14” กำกับโดย กอล์ฟ-ปวีณ ภูริจิตปัญญา นำแสดงโดย เก้า-จิรายุ ละอองมณี, ปัน ปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์ เรื่องที่สอง ตอน “21/28” กำกับโดย ปิ๊ง-อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม และเรื่องที่สาม ตอน “42.195” ซึ่งเป็นการกลับมาอีกครั้งในรอบ 7 ปี ของผู้กำกับมือรางวัล เก้ง-จิระ มะลิกุล นำแสดงโดย นิชคุณ หรเวชกุล, สู่ขวัญ บูลกุล และ โอปอล์-ปาณิสรา พิมพ์ปรุ การสัมภาษณ์พิเศษครั้งนี้ ได้ ท๊อป-นภัทร โชคจินดาชัย พิธีกรรายการ “PLAY GANG” จากช่อง PLAY CHANNEL รับหน้าที่เป็นตัวแทนสื่อมวลชนในการสัมภาษณ์เปิดใจเรื่องภาพยนตร์ในทุกคำถาม ท็อป: อยากจะทราบว่าอะไรที่เป็นปัจจัยหลักของนิชคุณที่ตัดสินรับเล่นหนังเรื่องแรกกับ GTH เรื่องรัก 7 ปี ดี 7 หน ครับ นิชคุณ : ปกติแล้วคุณเป็นแฟนหนังของ GTH อยู่แล้ว ตั้งแต่เรื่อง ชัตเตอร์ เรื่องแรกเลยนะครับ แล้วก็พอดีเขาติดต่อเข้ามาว่าอยากให้ผมไปเล่นหนัง ก็ดีใจมากแล้วเขาก็บอก ว่าพี่เก้ง เป็นคนกำกับหนัง ก็เลยตอบตกลงเลยนะครับ แต่ว่าพอดีมีคิวที่ติดอยู่ที่ทางบริษัทกับทางวง ก็มีแสดงคอนเสิร์ตเล็กน้อยก็เลยช้าหน่อยอ่ะครับ ท็อป : หลังจากที่ พี่คุณ ตอบรับแล้วเนี่ย ได้บทมาอ่านแล้วชอบเลยหรือป่าว นิชคุณ : ได้บทมาอ่านแล้วชอบเลยครับ เพราะว่าเป็นหนังที่น่าสนใจมากแล้วก็ไม่ใช่แค่บอกว่าน่ารัก กุ๊กกิ๊กๆธรรมดา แต่เป็นหนังที่ให้ข้อคิดดีๆแล้วก็ คุณ เชื่อว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆคนได้ และหวังว่าทุกคนจะชอบหนังเรื่องนี้กันครับ ท็อป : แล้วตัวละครในเรื่องนี้ พี่คุณ คิดว่ามีความเหมือนหรือว่าแตกต่างจากตัวพี่คุณอย่างไรครับ นิชคุณ : จริงๆแล้วพี่เก้งเขาบอกว่าให้ คุณ แสดงเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด เพราะว่านี้คือหนังเรื่องแรกของผม แล้วก็ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองแสดงดีหรือไม่ดีขนาดไหน ก็เลยพยายามทำให้เหมือนตัวเองมากที่สุดอ่ะนะครับ แล้วก็พี่เก้งเขาเขียนบทนี้มาเพื่อให้ผม เพื่อให้ คุณ โดยเฉพาะก็เลยเล่นเป็นตัวเองนิดหนึ่ง ก็..น่าจะเหมาะใช่ไหมครับ ท็อป : ในเรื่องนี้พี่คุณรับบทเป็นนักวิ่งมาราธอนด้วย พี่คุณ ได้อะไรกับการวิ่งมาราธอนแล้วก็รู้สึกอย่างไรบ้างครับ นิชคุณ : ได้หุ่นที่เพรียว สวยงามขึ้นนะ แล้วก็ได้วิ่งครับ ปกติเป็นคนไม่ชอบวิ่งอยู่แล้ว เพราะคุณผอมอยู่แล้ว แต่พอได้มาเล่นเรื่องนี้แล้วเราต้องวิ่ง ผมได้ไปฝึกวิ่งกับโค้ช ประเสริฐ ที่ทางGTH จัดมาให้ครับ การวิ่งทำให้ผมค้นพบถึงเสน่ห์บางอย่างของการวิ่งได้เลยว่า ทำไมคนเราถึงยอมสละเวลามาวิ่งในระยะทาง 42.195 กิโลเมตรในงานวันวิ่งมาราธอน นอกจากวิ่งเพื่อให้สุขภาพดีแล้ว ยังเป็นกีฬาที่เราสามารถเล่นคนเดียวได้ ได้ค้นพบอะไรบางอย่างจากการวิ่งด้วยครับ ท็อป : พอพี่คุณได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ คิดว่าหนังมีเสน่ห์มั้ย หลายคนติดใจที่ได้มาสัมผัส นิชคุณ : การถ่ายหนังก็ มีเสน่ห์นะครับ คิดว่าเป็นอะไรที่ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินไป ถ้าสมมติค้นพบตัวเองเจอว่าเราเป็นคนยังไง เราควรจะเล่นบทนี้ยังไงอะไรอย่างนี้ แต่ยังอีกไกลสำหรับผมแต่ก็อยากจะเป็นนักแสดงที่ดีในวันหนึ่ง ก็ถือว่าหนังเรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญมากของผมนะครับ ที่ได้มาเริ่มต้นที่เมืองไทยด้วย และยิ่งดีใจเข้าไปใหญ่ ที่ได้พี่เก้ง พี่สู่ขวัญ มาเป็นผู้ช่วย ผู้ผลักดันให้จุดเริ่มต้นของการแสดงหนังเรื่องแรกของผมผ่านไปด้วยดี ผม ดีใจและเป็นเกียรติมากครับ ท็อป : ทราบมาว่า เป็นเรื่องแรกที่พี่คุณแสดงอย่างเต็มตัวเลย มีความยากง่ายอย่างไรบ้างครับ นิชคุณ : ยากครับ ยากมากแล้วก็กดดันมาก เพราะว่าเป็นหนังที่พี่เก้งกำกับด้วยแล้ว คุณก็ไม่อยากทำให้พี่เก้งต้องผิดหวังที่มาเลือกผมให้เป็นตัวพระเอก วันแรกๆ ผมพยายามแสดงให้เต็มที่พยายามแบบเต็มที่มาก จนพี่เก้งบอก “เลิกแสดงได้แล้ว เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด” ก็ใช้เวลาปรับตัวสักพักหนึ่งเหมือนกัน เรารู้สึกว่าการแสดงเป็นอะไรที่มีเสน่ห์แล้วมันน่าสนใจอ่ะครับ อยากแสดงไปเรื่อยๆ ท็อป : ร่วมงานกับพี่เก้งเป็นอย่างไรบ้าง นิชคุณ : พี่เก้งเป็นคนใจดีมากเลย เหมือนคุณพ่อมากำกับหนัง รู้สึกสบายใจเวลาทำงานกับพี่เก้งสบายใจเพราะพี่เก้งเป็นคนใจดี ช่วยสอนตลอดเวลา รู้สึกดีที่ได้มาร่วมงานกับพี่เก้งและรู้สึกเป็นเกียรติด้วยครับ ท๊อป : หนังให้ประสบการณ์อะไรกับพี่คุณมากไปกว่าการแสดงไหม นิชคุณ : จุดเริ่มต้นของการถ่ายหนังเรื่องนี้ ผมอยากรู้ว่าตัวเองแสดงได้มั้ย ชอบการแสดงหรือเปล่า และหนังเรื่องนี้ทำให้ผมรู้ว่า ผมชอบการแสดง แล้วก็อยากเก่งในด้านนี้ด้วย ตอนนี้พยายามฝึกภาษาไทยให้มากขึ้นครับ ท็อป : อยากให้พูดถึงการทำงานร่วมกับคุณสู่ขวัญแล้วโอปอล์ นิชคุณ : การร่วมงานกับพี่สู่ขวัญ ผมถือว่าโชคดีมาก ตอนแรกที่มาเข้าฉากด้วยกันเนี่ย ไม่น่าเชื่อเลยครับว่าพี่เขาไม่เคยแสดงมาก่อน พี่ขวัญเป็นมืออาชีพมากในเรื่องการแสดง ตรงต่อเวลาแล้ว เราช่วยส่งบทกันมาก เวลาใครติดขัดตรงไหน เราจะช่วยกัน เป็นพี่ที่น่ารักจริงๆ ส่วนพี่โอปอล์นี่ก็ตามที่เขาบอกนะครับแย่งซีนไปหมดเลย ตลก ขำ สนุก เข้าฉากด้วยกันสนุกมาก ขนาดถ่ายด้วยกันแค่นิดเดียวยังสนุกเลยครับ เสียดายมาก ที่คุยกันนิดเดียว ท็อป : อยากทราบถึงความประทับใจที่พี่คุณมีต่อหนังเรื่องนี้ รัก 7 ปี ดี 7 หน นิชคุณ : ประทับใจมากครับ ตั้งแต่อ่านบทแล้ว ยิ่งได้ทำงานกับพี่เก้ง ผู้กำกับที่ผมชื่นชอบ ได้ทำงานกับพี่สู่ขวัญ และหนังเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่หนังรัก กุ๊กกิ๊กธรรมดาๆ ทั่วไป แต่เป็นหนังที่ผมเชือว่า มันจะให้ข้อคิด และแรงบันดาลบางอย่างกับทุกๆ คน แล้วก็ตั้งแต่ได้เจอพี่เก้ง พี่สู่ขวัญนะคับ ก็เป็นหนังที่อยากที่บอกอ่ะคับคือไม่ใช่แค่น่ารัก กุ๊กกิ๊กธรรมดา เป็นหนังที่ให้ข้อคิดและเป็นแรงบันดาลใจกับทุกคนว่าในชีวิตของเราเนี่ยถึงแม้ว่าจะรู้สึกว่ามันจะตกต่ำ หรือ จะเศร้าขนาดไหน แต่ถ้าสมมติเราเปิดใจรับสิ่งดีๆที่ก้าวเข้ามาในชีวิตเราเนี่ย ซึ่งมีอยู่ทุกวัน แค่เราเปิดใจรับ ชีวิตเราจะดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อได้นะครับ ท็อป: นอกจากเล่นหนังเรื่องนี้แล้ว ยังโปรเจ็คอื่นๆ อีกมั้ย นิชคุณ : อาทิตย์หน้ามีคอนเสิร์ตทัวร์ที่ญี่ปุ่นครับ แล้วก็จะมีออกอัลบั้มที่ญี่ปุ่นเหมือนกันแล้วก็มีออกอัลบั้มที่เกาหลีน่าจะภายในปีนี้ ก็ขอให้ทุกคนติดตามกันด้วยนะครับ ท็อป : หนังเรื่องแรกกดดันมั้ย เพราะคนดูอาจคาดหวัง นิชคุณ : กดดันมากครับ เพราะผมกลัวจะแพ้หนังเรื่องอื่นของ GTH (หัวเราะ) พยายามทำจะสถิติให้ได้เหมือนกัน แต่ก็ยังไม่ห่วงเท่าไร เพราะยังมีอีก 2 เรื่องที่คอยช่วยอยู่ เรื่องของ พี่คริส พี่ซันนี่ อีกเรื่องของน้องเก้า และ ปันปัน ความกดดันเลยลดลง ก็แค่คาดหวังว่าคนดูจะชอบครับ ท็อป : อยากให้พี่คุณพูดถึงมุมมองของความรักในเรื่องนี้ นิชคุณ : ความรักของเรื่องนี้ แสดงให้เห็นว่า ความรักของคนเรา ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องหวังอะไรจากกันและกัน แค่อยู่ข้างๆกัน เป็นเพื่อนกัน คอยสนับสนุนกันคอยเป็นแรงบันดาลใจ เป็นกำลังใจให้กันและกัน แค่นั้นมันก็เป็นความรักได้ครับ ท็อป : หนังเรื่องนี้เป็นหนังภาคภูมิใจที่สุดมั้ย เพราะว่าได้กลับ Attach Image : |